ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้บริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน สป.จีน เยือนเชียงใหม่ ชวนผู้ประกอบการไทยนำกล้วยไม้-หัตถกรรม ฯลฯ ออกขายในงานแสดงสินค้า 3 ชาติ (ไทย จีน และ ลาว) ที่จัดขึ้นทุกอาทิตย์ พร้อมเชิญภาครัฐ-เอกชนลงพื้นที่ดูลู่ทางลงทุน 11 เมษาฯนี้
นายฤทธิพงค์ เตชะพันธุ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน เขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน นำโดย นายหลิว หมิน จวิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและการบริการบ่อหาน ได้นำคณะประกอบด้วย หัวหน้า ต.ม.บ่อหาน หัวหน้าหอการค้า หัวหน้าศุลกากร กรรมการหมู่บ้านบ่อหาน เดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 8 เม.ย.54 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับแล้ว
ทาง นายหลิว หมิน จวิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและการบริการบ่อหาน ได้เชิญให้คณะผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเชียงใหม่ เดินทางไปเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน เพื่อศึกษาดูลู่ทางความร่วมมือระหว่างกันต่อไปในวันที่ 11 เม.ย.54 นี้ด้วย
ทั้งนี้ นายหลิว หมิน จวิน ระบุว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน เป็นเมืองหน้าด่านในการขนส่งทางบกที่เชื่อมโยงระหว่างไทย-จีน-ลาว โดยทุกสัปดาห์ได้มีการจัดแสดงสินค้าชายแดนไทย-จีน-ลาว ที่ผ่านมายังขาดผู้ประกอบการจากไทยร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าในงานดังกล่าว เนื่องจากปัญหาด้านภาษาในการสื่อสาร ซึ่งทางเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหานเห็นว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอุปสรรค โดยเสนอว่าควรมีการประสานงานระหว่างภาคเอกชน เช่น ระหว่างหอการค้าบ่อหาน-หอการค้าเชียงใหม่ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นหน่วยประสานความร่วมมือ
โดย นายหลิว หมิน จวิน เสนอให้นำกล้วยไม้ไทยที่สวยงามไปแสดงที่สวนกล้วยไม้ในเขตเศรษฐกิจบ่อหาน ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่เป็นที่สนใจเข้าชมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนั้นสินค้าหัตถกรรมของเชียงใหม่ ยังเป็นสินค้าที่สวยงามและเป็นที่สนใจของชาวจีนด้วย ด้านการขนส่งสินค้าระหว่างบ่อหาน-เชียงราย-เชียงใหม่ ควรจะมีบริษัทขนส่งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นผู้เชื่อมโยงในการนำส่งสินค้าระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาการสื่อสารระหว่างเชียงใหม่และเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหานหมดไปด้วย
ส่วนการประสานการสั่งซื้อหรือการชำระค่าสินค้าเสนอให้ใช้ช่องทางประสานงานทาง e-mail หรือทางโทรศัพท์ ก็จะทำให้เกิดความรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าผลไม้ไทยซึ่งเป็นผลไม้เมืองร้อนเป็นสินค้าทางการเกษตรที่ทางประเทศจีนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
อนึ่ง จังหวัดเชียงใหม่และเขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นและมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด เนื่องจากทั้งสองเมืองมีความคล้ายคลึงกันทั้งด้านลักษณะภูมิประเทศ ชาติพันธุ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และมีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์มายาวนาน อีกทั้ง ผู้บริหารของทั้งสองเมืองได้มีการเดินทางเยี่ยมเยือนระหว่างกันเสมอ ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือแนวทางการพัฒนาในมิติต่างๆ ได้แก่ ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และ Logistic
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือชายแดน และการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากร การเดินทางผ่านแดนและการขนส่งสินค้าตามเส้นทาง R3A จนทำให้เกิดข้อตกลงร่วมกันของความร่วมมือ 6 ฝ่าย เขตชายแดนจีน ลาว ไทย ทำให้เกิดผลดีในการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาค ลุ่มน้ำโขงตอนบน ภาคเหนือของไทย ลาว และภาคใต้ของจีน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและสร้างข้อตกลงให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายมีแนวทางปฏิบัติร่วมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและลงทุนร่วมกันบนพื้นฐานที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคต
นายฤทธิพงค์ เตชะพันธุ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน เขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน นำโดย นายหลิว หมิน จวิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและการบริการบ่อหาน ได้นำคณะประกอบด้วย หัวหน้า ต.ม.บ่อหาน หัวหน้าหอการค้า หัวหน้าศุลกากร กรรมการหมู่บ้านบ่อหาน เดินทางมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 8 เม.ย.54 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับแล้ว
ทาง นายหลิว หมิน จวิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและการบริการบ่อหาน ได้เชิญให้คณะผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเชียงใหม่ เดินทางไปเยือนเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน เพื่อศึกษาดูลู่ทางความร่วมมือระหว่างกันต่อไปในวันที่ 11 เม.ย.54 นี้ด้วย
ทั้งนี้ นายหลิว หมิน จวิน ระบุว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหาน เป็นเมืองหน้าด่านในการขนส่งทางบกที่เชื่อมโยงระหว่างไทย-จีน-ลาว โดยทุกสัปดาห์ได้มีการจัดแสดงสินค้าชายแดนไทย-จีน-ลาว ที่ผ่านมายังขาดผู้ประกอบการจากไทยร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าในงานดังกล่าว เนื่องจากปัญหาด้านภาษาในการสื่อสาร ซึ่งทางเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหานเห็นว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอุปสรรค โดยเสนอว่าควรมีการประสานงานระหว่างภาคเอกชน เช่น ระหว่างหอการค้าบ่อหาน-หอการค้าเชียงใหม่ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นหน่วยประสานความร่วมมือ
โดย นายหลิว หมิน จวิน เสนอให้นำกล้วยไม้ไทยที่สวยงามไปแสดงที่สวนกล้วยไม้ในเขตเศรษฐกิจบ่อหาน ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่เป็นที่สนใจเข้าชมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นอกจากนั้นสินค้าหัตถกรรมของเชียงใหม่ ยังเป็นสินค้าที่สวยงามและเป็นที่สนใจของชาวจีนด้วย ด้านการขนส่งสินค้าระหว่างบ่อหาน-เชียงราย-เชียงใหม่ ควรจะมีบริษัทขนส่งของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นผู้เชื่อมโยงในการนำส่งสินค้าระหว่างกัน ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาการสื่อสารระหว่างเชียงใหม่และเขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อหานหมดไปด้วย
ส่วนการประสานการสั่งซื้อหรือการชำระค่าสินค้าเสนอให้ใช้ช่องทางประสานงานทาง e-mail หรือทางโทรศัพท์ ก็จะทำให้เกิดความรวดเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าผลไม้ไทยซึ่งเป็นผลไม้เมืองร้อนเป็นสินค้าทางการเกษตรที่ทางประเทศจีนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
อนึ่ง จังหวัดเชียงใหม่และเขตปกครองตนเองชนชาติไตสิบสองปันนา มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้นและมีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด เนื่องจากทั้งสองเมืองมีความคล้ายคลึงกันทั้งด้านลักษณะภูมิประเทศ ชาติพันธุ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี และมีความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์มายาวนาน อีกทั้ง ผู้บริหารของทั้งสองเมืองได้มีการเดินทางเยี่ยมเยือนระหว่างกันเสมอ ทำให้ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือแนวทางการพัฒนาในมิติต่างๆ ได้แก่ ด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา และ Logistic
โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือชายแดน และการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากร การเดินทางผ่านแดนและการขนส่งสินค้าตามเส้นทาง R3A จนทำให้เกิดข้อตกลงร่วมกันของความร่วมมือ 6 ฝ่าย เขตชายแดนจีน ลาว ไทย ทำให้เกิดผลดีในการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาค ลุ่มน้ำโขงตอนบน ภาคเหนือของไทย ลาว และภาคใต้ของจีน อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและสร้างข้อตกลงให้แก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่เกี่ยวข้องแต่ละฝ่ายมีแนวทางปฏิบัติร่วมกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและลงทุนร่วมกันบนพื้นฐานที่ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกันในอนาคต
