พระนครศรีอยุธยา - ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สวน “ประมวล เอมเปีย” หลังออกมาขอให้รัฐบาลทบทวนการคัดเลือกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนจัด “เวิลด์ เอ็กซ์โป 2020” เพราะไม่อยากให้มีการกระจุกตัวความเจริญอยู่เพียงจังหวัดเดียว
วันนี้ (7 เม.ย.) นายทศพล วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับ นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่า ขอให้รัฐบาลทบทวนการคัดเลือกให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 โดยอ้างว่า จ.พระนครศรีอยุธยา มีศักยภาพน้อยกว่าอีก 5 จังหวัดโดยเฉพาะ จ.ชลบุรี นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ได้กำหนดรูปแบบวิธีการจัดงานมาอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของวิถีชีวิตและพื้นที่การจัดงาน ซึ่งผู้จัดต้องการสื่อถึงวัฒนธรรมในพื้นที่ให้คนทั่วโลกได้เห็นมากที่สุด
ทั้งนี้ จุดขายของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการนำเสนอกับคณะกรรมการ ที่มี นายวินเซน กอนซาเลส เลขาฯบีไออี มาตรวจงาน เรื่องของวิถีชีวิตชาวอยุธยา เมืองวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีต้นทุนด้านการท่องเที่ยวมากอยู่แล้ว ไม่ต้องเพิ่มอะไรมาก ซึ่งหากเทียบกับ จ.ชลบุรี ต้องถามกลับไปว่าจะโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวให้คนมาเที่ยวงานได้รู้ใช่หรือไม่
ส่วนกรณีที่ นายประมวล ระบุว่า จ.ชลบุรี อยู่ใกล้สนามบินและการคมนาคมสะดวกนั้น ก็เป็นเรื่องที่พูดได้ แต่ต้องถามว่าหากพื้นที่การจัดงานอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คนทั่วประเทศทั้งภาคกลาง เหนือ อีสาน และตะวันออก จะเดินทางมาเที่ยวชมงานได้สะดวกกว่าใช่หรือไม่ ซึ่งจริงแล้วไม่อยากให้มองว่าจังหวัดไหนได้จัดเป็นหน้าตาของจังหวัดนั้น แต่อยากให้มองว่าเป็นหน้าตาของประเทศไทยมากกว่า
นายทศพล กล่าวอีกว่า จ.ชลบุรี ได้รับการพัฒนาทั้งเรื่องท่องเที่ยว และเศรษฐกิจมามากแล้ว จึงอย่าให้ความเจริญกระจุกตัวอยู่ที่เดียว และการที่รัฐบาลเลือกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เป็นไปตามความเห็นของเลขาฯบีไออี ที่ระบุว่า จ.พระนครศรีอยุธยา เหมาะสมที่จะจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 สิ่งสำคัญคือ หาก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนประเทศไทย ได้จัดงานดังกล่าวจริง ไม่ใช่ จ.พระนครศรีอยุธยา เท่านั้นที่จะได้ความเจริญ แต่พื้นที่จังหวัดภาคกลาง เช่น จ.ปทุมธานี สุพรรณบุรี นนทบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี นครนายก และอีกหลายจังหวัดก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อได้รับการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาลให้เป็นตัวแทนประเทศไทย ชิงจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป และมีการอนุมัติงบเบื้องต้นแล้ว เข้าใจว่า หลายคนต้องการงบไปพัฒนาพื้นที่ตัวเองมากกว่า และถือว่าเป็นเค้กชิ้นโตที่หลายคนต้องการ เนื่องจากการจัดงานในลักษณะนี้ต้องใช้งบพัฒนาจำนวนมาก เพื่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับการจัดงาน ก่อนที่จะมีการลงทุนก่อสร้างพื้นที่การจัดงาน จึงมีหลายจังหวัดที่ต้องการให้งานดังกล่าวไปจัดในพื้นที่ตัวเอง เพื่อความเจริญจะได้เข้าไปถึง
วันนี้ (7 เม.ย.) นายทศพล วังศิลาบัตร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับ นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่า ขอให้รัฐบาลทบทวนการคัดเลือกให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 โดยอ้างว่า จ.พระนครศรีอยุธยา มีศักยภาพน้อยกว่าอีก 5 จังหวัดโดยเฉพาะ จ.ชลบุรี นั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจากการจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ได้กำหนดรูปแบบวิธีการจัดงานมาอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องของวิถีชีวิตและพื้นที่การจัดงาน ซึ่งผู้จัดต้องการสื่อถึงวัฒนธรรมในพื้นที่ให้คนทั่วโลกได้เห็นมากที่สุด
ทั้งนี้ จุดขายของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการนำเสนอกับคณะกรรมการ ที่มี นายวินเซน กอนซาเลส เลขาฯบีไออี มาตรวจงาน เรื่องของวิถีชีวิตชาวอยุธยา เมืองวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีต้นทุนด้านการท่องเที่ยวมากอยู่แล้ว ไม่ต้องเพิ่มอะไรมาก ซึ่งหากเทียบกับ จ.ชลบุรี ต้องถามกลับไปว่าจะโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวให้คนมาเที่ยวงานได้รู้ใช่หรือไม่
ส่วนกรณีที่ นายประมวล ระบุว่า จ.ชลบุรี อยู่ใกล้สนามบินและการคมนาคมสะดวกนั้น ก็เป็นเรื่องที่พูดได้ แต่ต้องถามว่าหากพื้นที่การจัดงานอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา คนทั่วประเทศทั้งภาคกลาง เหนือ อีสาน และตะวันออก จะเดินทางมาเที่ยวชมงานได้สะดวกกว่าใช่หรือไม่ ซึ่งจริงแล้วไม่อยากให้มองว่าจังหวัดไหนได้จัดเป็นหน้าตาของจังหวัดนั้น แต่อยากให้มองว่าเป็นหน้าตาของประเทศไทยมากกว่า
นายทศพล กล่าวอีกว่า จ.ชลบุรี ได้รับการพัฒนาทั้งเรื่องท่องเที่ยว และเศรษฐกิจมามากแล้ว จึงอย่าให้ความเจริญกระจุกตัวอยู่ที่เดียว และการที่รัฐบาลเลือกจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เป็นไปตามความเห็นของเลขาฯบีไออี ที่ระบุว่า จ.พระนครศรีอยุธยา เหมาะสมที่จะจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 สิ่งสำคัญคือ หาก จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนประเทศไทย ได้จัดงานดังกล่าวจริง ไม่ใช่ จ.พระนครศรีอยุธยา เท่านั้นที่จะได้ความเจริญ แต่พื้นที่จังหวัดภาคกลาง เช่น จ.ปทุมธานี สุพรรณบุรี นนทบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี นครนายก และอีกหลายจังหวัดก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อได้รับการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาลให้เป็นตัวแทนประเทศไทย ชิงจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป และมีการอนุมัติงบเบื้องต้นแล้ว เข้าใจว่า หลายคนต้องการงบไปพัฒนาพื้นที่ตัวเองมากกว่า และถือว่าเป็นเค้กชิ้นโตที่หลายคนต้องการ เนื่องจากการจัดงานในลักษณะนี้ต้องใช้งบพัฒนาจำนวนมาก เพื่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับการจัดงาน ก่อนที่จะมีการลงทุนก่อสร้างพื้นที่การจัดงาน จึงมีหลายจังหวัดที่ต้องการให้งานดังกล่าวไปจัดในพื้นที่ตัวเอง เพื่อความเจริญจะได้เข้าไปถึง