เชียงราย-ผู้ต้องหาปล้นทองที่กทม.ได้ทองไปกว่า 65 บาทจนมุมที่ท่าขี้เหล็กฝั่งพม่าด้านแม่สายเชียงราย ระบุตำรวจฝั่งไทยขอความร่วมมือตม.พม่าตรวจสอบสุดท้ายผู้ต้องหาจนมุมถูกส่งกลับทันที
วันนี้ (5 เม.ย.) พ.ต.อ.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผกก.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงราย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.กองบัญชาการสืบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (น.) พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.แม่สาย ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย และคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี ได้ประสานกับทาง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีมีผู้ต้องหาปล้นร้านทองที่เป็นข่าวเกลียวกราวในฝั่งไทยหลบหนีไปอยู่ในฝั่งประเทศพม่า
หลังจากทาง ตม.แม่สาย ตรวจสอบพบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีชายคนหนึ่งใช้ชื่อว่านายธีรวัฒน์ สำลีรัตน์ อายุ 20 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ซึ่งเคยก่อเหตุจี้ร้านทองร้านทองจิรสุวรรณ เลขที่ 123/2 ถนนประชาอุทิศ ปากซอยประชาอุทิศ 54 แขวงและเขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ได้ทองคำรูปพรรณหนัก 65 บาท และยังใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ยิง น.ส.วิชุดา จันทร์ฉาย อายุ 28 ปี ลูกจ้างของร้านได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาสข้ามจากฝั่ง อ.แม่สาย ไปยัง จ.ท่าขี้เหล็ก ผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 1
ต่อมาทางตำรวจ จ.ท่าขี้เหล็ก ได้แจ้งกลับมาว่าได้พบชายคนดังกล่าวจริงโดยได้หลบซ่อนอยู่ในห้องพักของโรงแรมเมียชเวยี่ จ.ท่าขี้เหล็ก ห่างจากชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร จึงได้จับกุมตัวเอาไว้และเชิญคณะทั้งหมดจากฝั่งไทยไปดูตัวที่ กก.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะพบว่าเป็นผู้ต้องหารายนี้จริงจึงได้แสดงความขอบคุณทางการพม่าและทำการส่งมอบตัวกลับมายังฝั่งไทยด้วยดี
จากการสอบสวนนายธีรวัฒน์สารภาพว่าได้ก่อเหตุจริงและยังเคยร่วมกับเพื่อนก่อเหตุปล้นร้านทองเลขที่ 20 ซ.สุขสวัสดิ์ 26 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ โดยใช้มีดบุกจี้ชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 45 บาทด้วย
ส่วนสาเหตุที่ทำบอเดอร์พาสไปยังฝั่งพม่าโดยไม่สะทกสะท้านเพราะไม่คิดจะกลับฝั่งไทยโดยจะนำเงินไปอาศัยอยู่ที่ฝั่งพม่าอย่างถาวร