ออกหมายจับคนร้ายก่อเหตุชิงทองกว่า 60 บาท มูลค่า 1.3 ล้าน เชื่อเร็วๆ นี้จะควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้ เผยแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและกรณีนำทอง 18 บาทไปทิ้งพงหญ้าย่านปากน้ำ ตรวจพบเป็นคนผอมบางอ้อนแอ้น ทรงผมเกาหลี คาดเคยชิงทองย่านสุขสวัสดิ์ มีประวัติเป็นเด็กแว้นและเคยถูกจับ
วันนี้ (4 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.มานพ สุคนธนพัฒน์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทองจิรสุวรรณ ถนนประชาอุทิศ ได้สร้อยคอทองคำไป 24 เส้น น้ำหนัก 60 บาท รวมมูลค่ากว่า 1.3 ล้านบาท และยังใช้อาวุธปืนยิง น.ส.วิชุดา จันทร์ฉาย พนักงานในร้านได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะขับจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาวคาดดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เมื่อวันที่ 27 มี.ค. จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พบหลักฐานต่างๆ และพบสร้อยคอทองคำน้ำหนักรวม 18 บาทที่คนร้ายนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าย่านจังหวัดสมุทรปราการว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เร่งหาเบาะแสของคนร้ายอย่างเต็มที่ โดยจากเดิมที่ยังมีหลักฐานไม่มากนัก แต่ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบแล้วว่าคนร้ายรายนี้คือใคร และได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาธนบุรีเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้เนื่องจากอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว
พ.ต.อ.มานพกล่าวอีกว่า เบื้องต้นพบว่าคนร้ายได้หลบหนีขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว โดยสิ่งที่ทำให้คดีมีความคืบหน้าจนรู้ตัวคนร้ายมาจากกล้องวงจรปิดเป็นหลัก และอีกส่วนมาจากการทำงานของตำรวจ ส่วนเบาะแสของประชาชนก็มีส่วนช่วยในการติดตามจับกุม เนื่องจากก่อนที่จะพบทองคำ 18 บาทนำไปทิ้งในพงหญ้าย่านจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีประชาชนโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าพบบุคคลต้องสงสัยหายเข้าไปในพงหญ้าเป็นเวลานานหลายนาทีด้วยท่าทางพิรุธ จากนั้นได้รีบร้อนขับจักรยานยนต์ออกไป ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามไปตรวจสอบจนพบว่ามีการนำสร้อยคอทองคำที่คนร้ายชิงไปเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมานำมาทิ้งไว้ และยังพบภาพของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดอย่างชัดเจนด้วย ส่วนสาเหตุที่คนร้ายนำทองมาซ่อน คาดว่าน่าจะต้องการเก็บไว้ หากถูกติดตามตัวหรือจับกุมก็ยังมีทองบางส่วนหลงเหลืออยู่บ้าง
“สำหรับคนร้ายรายนี้เป็นชายอายุประมาณ 20 ปี มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดสมุทรปราการ มีลักษณะรูปร่างผอมบาง อ้อนแอ้น และตัดผมคล้ายกับคนเกาหลี ซึ่งหลังจากที่รู้ว่าคนร้ายเป็นใคร เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังไปค้นที่บ้านพักของคนร้าย และจากการตรวจสอบพบหลักฐานหลายอย่างที่เชื่อมโยงไปถึงคดีชิงทองก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่เคยลงมือก่อเหตุชิงทองภายในซอยสุขสวัสดิ์ 26 เมื่อประมาณเดือน ก.ค.53 แต่ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังพบว่าเคยมีประวัติถูกจับที่ สภ.พระประแดง เมื่อปี 2552 ในข้อหาแข่งขันรถบนทางสาธารณะ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเป็นเด็กแว้นอยู่ในแก๊งซิ่งรถ แต่หลังจากที่มารดาเสียชีวิตไปเมื่อปี 2553 ก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่สุงสิงกับใคร ชอบอยู่คนเดียว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในเร็วๆ วันนี้จะสามารถจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน” พ.ต.อ.มานพกล่าว