ศูนย์ข่าวศรีราชา -3 หนุ่มยูเครน ช่วยกันจับกุมสาวประเภท 2 ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ แต่หลังถูกจับกุมอ้างเป็นพลเมืองดีไม่ใช่คนร้าย
วันนี้(4 เม.ย.54) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบเหตุวิ่งราวทรัพย์นัก ท่องเที่ยวต่างชาติ และสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุไว้ได้ 1 ราย ที่บริเวณถนนเลียบชายหาดแยกโรงแรม โนวาลอจ์ด พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายคือ mr.semenets aleksandr อายุ 27 ปี สัญชาติยูเครน พร้อมเพื่อน 3 คน ช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อ นายณภัทร ชำนาญพจน์ อายุ 28 ปี สาวประเภท 2 พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทอง 18 เค น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น
mr.semenets aleksandr ให้การว่า ตนกำลังเดินเล่นอยู่ที่บริเวณชายหาดกับเพื่อน จากนั้นนายณภัทร ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 เดินเข้ามากอดรัด จากนั้นเพื่อนของนายณภัทร ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสีและรุ่นเข้ามาจอดแล้วได้เดินมาปลดสร้อยคอที่สวมใส่อยู่ไป พอรู้ตัวจึงได้บอกเพื่อนให้ช่วยกันจับตัว แต่เพื่อนของนายณภัทร ได้ขี่รถหลบหนีไปได้ ซึ่งขณะนั้นเพื่อนของนายณภัทร ได้โยนสร้อยให้นายณภัทร แต่เมื่อนายณภัทร เห็นว่าจนมุมเลยแกล้งทำเป็นพลเมืองดีเก็บคืนสร้อยให้
ส่วนนายณภัทร ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การอ้างว่าเพียงแค่เดินเข้าไปทักผู้เสียหายเท่านั้น ไม่ได้กระทำการชิงทรัพย์แต่อย่างใดและก็ไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว โดยเห็นว่าคนร้ายได้ปลดสร้อยของชาวต่างชาติแล้วพยายามที่จะหลบหนีแต่ถูกจับได้ จึงได้โยนสร้อยทิ้งที่ชายหาด ตนเลยเดินหาและเก็บมาคืนให้เจ้าของเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การแต่อย่างใด เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันชัดเจนว่า ร่วมกับผู้ที่หลบหนีได้ก่อเหตุปลดสร้อยจริง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
วันนี้(4 เม.ย.54) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รุดไปตรวจสอบเหตุวิ่งราวทรัพย์นัก ท่องเที่ยวต่างชาติ และสามารถจับกุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุไว้ได้ 1 ราย ที่บริเวณถนนเลียบชายหาดแยกโรงแรม โนวาลอจ์ด พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายคือ mr.semenets aleksandr อายุ 27 ปี สัญชาติยูเครน พร้อมเพื่อน 3 คน ช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อ นายณภัทร ชำนาญพจน์ อายุ 28 ปี สาวประเภท 2 พร้อมของกลางเป็นสร้อยคอทอง 18 เค น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น
mr.semenets aleksandr ให้การว่า ตนกำลังเดินเล่นอยู่ที่บริเวณชายหาดกับเพื่อน จากนั้นนายณภัทร ซึ่งเป็นสาวประเภท 2 เดินเข้ามากอดรัด จากนั้นเพื่อนของนายณภัทร ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสีและรุ่นเข้ามาจอดแล้วได้เดินมาปลดสร้อยคอที่สวมใส่อยู่ไป พอรู้ตัวจึงได้บอกเพื่อนให้ช่วยกันจับตัว แต่เพื่อนของนายณภัทร ได้ขี่รถหลบหนีไปได้ ซึ่งขณะนั้นเพื่อนของนายณภัทร ได้โยนสร้อยให้นายณภัทร แต่เมื่อนายณภัทร เห็นว่าจนมุมเลยแกล้งทำเป็นพลเมืองดีเก็บคืนสร้อยให้
ส่วนนายณภัทร ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การอ้างว่าเพียงแค่เดินเข้าไปทักผู้เสียหายเท่านั้น ไม่ได้กระทำการชิงทรัพย์แต่อย่างใดและก็ไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุคนดังกล่าว โดยเห็นว่าคนร้ายได้ปลดสร้อยของชาวต่างชาติแล้วพยายามที่จะหลบหนีแต่ถูกจับได้ จึงได้โยนสร้อยทิ้งที่ชายหาด ตนเลยเดินหาและเก็บมาคืนให้เจ้าของเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การแต่อย่างใด เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันชัดเจนว่า ร่วมกับผู้ที่หลบหนีได้ก่อเหตุปลดสร้อยจริง ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
