จับหนุ่มบริหาร ม.ดัง! ชิงทองเตรียมหมั้นลูกสาว อบต.

หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง ออกอุบายจะขอเปลี่ยนทอง แต่เจ้าของร้านจำหน้าได้ถูกล็อกคอจับส่งตำรวจดำเนินคดี เจ้าตัวรับเคยก่อเหตุชิงทองร้านนี้มาแล้ว 1 ครั้ง โดยนำทองไปขายใช้หนี้พนันบอล แต่ที่ย้อนกลับมาก่อเหตุร้านเดิมอีก เพื่อหาทองไปหมั้นแฟนสาว ดีกรีลูก อบต.สุพรรณบุรี

วันนี้ (25 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.ขณะที่ ด.ต.บุญทัน หาศร และ ด.ต.คิดดี สมบูรณ์ ผบ.หมู่จราจร.สน.ดินแดง กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณแยกดินแดง ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ภายในร้านทองชัยสวัสดิ์ แขวงและเขตดินแดง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า นายยี่หมิง หลิว อายุ 47 ปี เจ้าของร้านทองและประชาชนช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายชัยณรงค์ มัตทุรี หรือ ก้อง อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยดัง พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่โรงพัก

จากการสอบสวน นายชัยณรงค์ ให้การรับสารภาพ ว่า ก่อนหน้านี้ ตนเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านดังกล่าวมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา โดยใช้รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ ฟีโน่ สีชมพูคาดดำ หมายเลขทะเบียน ฬคน 945 กรุงเทพมหานคร เป็นพาหนะ ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และสามารถหลบหนีไปได้ จากนั้นได้นำทองไปขายได้เงินมาจำนวน 19,000 บาท ก่อนจะนำเงินทั้งหมดไปใช้หนี้พนันบอล และคืนเพื่อนที่ตนเคยยืมเงินมาใช้จ่าย

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ต้องกลับมาก่อเหตุซ้ำ เป็นเพราะตนจะต้องหาทองจำนวน 4 บาท ไปหมั้นแฟนสาว ซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาล ในวันที่ 27 มีนาคม ที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยตนมีทองอยู่แล้ว 3 บาท ยังขาดอีก 1 บาท จึงตัดสินใจก่อเหตุที่ร้านเดิม

นายชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติการณ์ในการก่อเหตุตนไม่ได้พรางตัว ซึ่งในครั้งแรกตนเดินเข้าไปปกติ และทำทีเป็นขอซื้อทอง โดยเมื่อเจ้าของร้านเผลอตนก็รีบหยิบทองและวิ่งออกจากร้านขับรถ จยย.หลบหนีไป โดยที่ไม่คิดว่าจะมีใครจำหน้าได้ กระทั่งวันนี้ตนได้ทำทีเข้ามาขอดูทองหนัก 2 บาท โดยนำสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ ซึ่งเป็นของแฟนมาให้เจ้าของร้านดู พร้อมกับบอกว่าจะขอเปลี่ยนเป็น 2 บาท แต่ยังไม่ทันที่จะหยิบทองวิ่งออกจากร้านก็ถูกรวบตัวได้เสียก่อน ส่วนที่กลับไปร้านเดิม เพราะตนไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้วางแผนมาก่อน ไม่คิดว่าจะถูกจับได้ และที่ตนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง แฟนของตนก็ไม่เคยรู้มาก่อน ถ้ารู้ตนคงจะไม่มีโอกาสได้หมั้นและแต่งงาน เพราะแม่ของแฟนทำงานเป็น อบต.อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

ต่อมา นายยี่หมิง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านทอง ได้เดินทางมาที่สน.ดินแดง เพื่อชี้ตัวผู้ต้องหาและดูของกลาง โดยนายยี่หมิง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนเปิดร้านขายทองตามปกติ ซึ่งทางร้านของตนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 นายประจำอยู่ในร้านด้วย แต่ขณะเกิดเหตุตำรวจได้ออกไปทำธุระด้านนอก กระทั่งผู้ต้องหาเข้ามาทำทีขอเปลี่ยนทอง ระหว่างนั้นตนจำหน้าได้คับคล้ายคับคลา แต่ไม่แน่ใจ จึงถือสร้อยทองเอาไว้ในมือ ไม่ยอมปล่อยให้ผู้ต้องหาหยิบไปดู จากนั้นผู้ต้องหาก็ออกอุบายบอกว่าเพื่อนที่ให้มาซื้อทองต้องการจะคุยด้วย ตนเห็นว่าผู้ต้องหามีท่าทีพิรุธและพยายามจะชิงเอาทองไป จึงล็อคคอเอาไว้ พร้อมกับตะโกนให้คนช่วย ทำให้ผู้ต้องหาไม่สามารถหลบหนีไปได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาและผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้ง และแจ้งข้อหาพยายามวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป