สระบุรี - มือปืนโหดดักยิงผู้รับเหมากลางสี่แยกไฟแดง เผยคนร้ายรู้เส้นทางของเหยื่อที่จะเดินทางมาจุดเกิดเหตุเลยมาดักซุ้มรอตั้งแต่เช้าตรู่ จังหวะเหยื่อมาถึงติดไฟแดง คนร้ายจึงชักอาวุธปืนยิงใส่รถยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ กระสุนถูกคนขับและผู้นั่งร่วมทางมาด้วยได้รับบาดเจ็บก่อนคนร้ายได้หลบหนีไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 มี.ค.) พ.ต.ท.สรวิชญ์ บริบูรณ์ พงส.สบ.3 สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถแวนยี่ห้อโตโยต้า (ฟอร์จูนเนอร์) บริเวณสี่แยกไฟแดงถนนบายพาส ต.แพะโคก อ.เมือง จ.สระบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน จึงได้เดินทางไปที่เกิดเหตุ พบรถคันดังกล่าวหมายเลขทะเบียน ชพ-2571 กทม. บริเวณด้านข้างกระจกขวาคนขับถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดจำนวน 6 นัด
ภายในรถพบคนเจ็บชื่อนายสุเมธ เกิดหนู อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/1 ม.8 ต.หนองกรด อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นคนขับถูกยิงที่แขนขวา 1 นัด นอนฟุบอยู่คาพวงมาลัยที่บริเวณเบาะนั่งพบปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก 1 กระบอก โดยยังไม่ได้ใช้งานและนายสุเมธ มีอาชีพรับเหมาการตกแต่งภายในอาคารต่างๆ
ถัดไปพบคนเจ็บชื่อนายสำรวย ปากคีบทอง อายุ 46 ปี (ไม่ทราบบ้านเลขที่) ถูกยิงบริเวณขาขวา 1 นัด จึงนำผู้บาดเจ็บทั้งสองส่งโรงพยาบาลสระบุรี ส่วนนายสุเมธนั้นทางญาติได้ขอนำไปรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท กรุงเทพฯ โดยเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยซึ่งมือปืนอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถคันดังกล่าวซึ่งเป็นของนายสุเมธได้นั่งกันมารวม 3 คน โดยทั้งหมดจะมาทำงานซึ่งรับเหมาไว้ที่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ขณะมาถึงจุดเกิดเหตุจังหวะรถติดไฟแดง โดยไม่คาดคิดได้มีคนร้ายซึ่งสวมชุดคลุมสีดำ สวมหมวกแก๊ป 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์แบบหญิงไม่ทราบยี่ห้อ สีฟ้า ไม่ทราบทะเบียน ประกบด้านข้างนายสุเมธโดยคนร้ายที่ซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกยิงใส่จำนวน 6 นัด แล้วพากันหลบหนีไป
พยานรายหนึ่งซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนพบคนร้ายทั้งสองมาจอดรถบริเวณ 4 แยก จุดเกิดเหตุตั้งแต่เวลา 07.30 น. แต่ก็ไม่ได้สนใจ สนมาเกิดเหตุยิงกันจึงทราบว่าเป็นคนร้ายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นขัดแย้งว่า นายสุเมธซึ่งเคยมีเรื่องกับบริษัทรับเหมารายหนึ่งในจังหวัดลพบุรี และเคยมีปากเสียง โดยฝ่ายตรงข้ามขู่อาฆาตมาครั้งหนึ่งแล้ว และนายสุเมธก็ได้ระวังตัวโดยการพกอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งมาถูกยิงดังกล่าว
ส่วนอาวุธปืนของนายสุเมธ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมแจ้งข้อหาพกปืนอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อดำเนินการต่อไป ส่วนคนร้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเป็นมือปืนรับจ้างที่รับจ้างมาสังหารนายสุเมธโดยตรง