ศูนย์ข่าวภาคเหนือ - ยอดบริจาคเงินโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น จากใจชาวเชียงใหม่ถึงสองล้านแล้ว แถมยังไม่หยุด ขณะที่คณะทำงานจัดพิธีมอบเงินให้กงสุลญี่ปุ่นแล้ว ด้าน ผอ.มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น เตรียมลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมนำเงินบริจาคจากชาวไทย-ข้าวของจำเป็นไปมอบผู้ประสบภัยด้วย
เมื่อวันที่ 27 มี.ค.2554 ที่ลานกิจกรรม อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ ได้มีพิธีส่งมอบเงินจาก “โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น จากใจชาวเชียงใหม่ (Heart to Heart from Chiang Mai to Japan)” โดยมี นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นตัวแทนมอบเงินให้กับ นายคะซึโอะ ชิบะตะ กงสุลใหญ่ประเทศญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ
โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.และสิ้นสุดลงในวันที่ 27 มี.ค.เป็นความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ รวม 25 องค์กร ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อรณรงค์รับบริจาคเงินสำหรับช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ เช่น การมอบรายได้จากการจัดจำหน่ายสินค้า โดยไม่หักค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ การเดินรณรงค์รับบริจาคของกลุ่มนักศึกษาสถาบันต่างๆ การตั้งกล่องรับบริจาคตามสถานที่ต่างๆ และการเปิดรับบริจาคผ่านบัญชีธนาคารของโครงการ เป็นต้น
ทั้งนี้ การดำเนินกิจกรรมตลอดทั้ง 9 วันที่ผ่านมา ได้รับเงินบริจาคจากหน่วยงานต่างๆ รวมประมาณ 2 ล้านบาท และยังมีตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะได้ส่งมอบให้กับกงสุลใหญ่ประเทศญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่แล้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้เป็นตัวแทนของโครงการมอบเงินสนับสนุนจำนวน 30,000 บาท ให้กับ นายโทโมฮารุ เอบีฮาระ ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งจะเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายของประเทศญี่ปุ่นในเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้
นายเอบีฮาระ กล่าวถึงการเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่น ว่า ในเบื้องต้นจะนำเงินที่ได้รับจากโครงการ และเงินที่ได้รับบริจาค รวมทั้งสิ้นประมาณ 500,000 บาท ส่งมอบต่อให้กับเทศบาลเมืองมิยากิ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด เพื่อนำไปใช้ในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
ขณะเดียวกัน ได้รับข้อมูลจากเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนในญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้ที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่งในเมืองเซนไดกำลังขาดแคลนรองเท้า และกระเป๋า จึงเตรียมที่จะจัดซื้อรองเท้าจำนวนประมาณ 300 คู่ และกระเป๋าอีก 500 ใบ เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่นในศูนย์อพยพด้วย
นอกจากนี้ มูลนิธิส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาไทย-ญี่ปุ่น ยังเตรียมที่จะจัดการประกวดสุนทรพจน์เพื่อให้กำลังใจแก่ชาวญี่ปุ่นของนักเรียนนักศึกษาไทยขึ้นในเดือน ก.ค.เนื่องจากเล็งเห็นว่าประเทศไทยมีผู้ที่สนใจศึกษาภาษาญี่ปุ่นมากเป็นอันดับ 6 ของโลก รวมทั้งประสบการณ์จากครั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมืองโกเบเมื่อปี 2538 ทำให้ทราบว่าผู้ประสบภัยรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น เมื่อได้รับข้อความหรือคำกล่าวให้กำลังใจจากทั่วประเทศ
การประกวดสุนทรพจน์จึงถือเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่จะช่วยให้กำลังใจผู้ประสบภัยชาวญี่ปุ่นได้ โดยทางมูลนิธิยินดีรับการให้กำลังใจในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งภาพท้ายบทกลอน ไปรษณียบัตร หรือในรูปแบบอื่นๆ เพื่อร่วมในโครงการดังกล่าวด้วยเช่นกัน
