กาฬสินธุ์- ชิงชัย มงคลธรรม หน.พรรคความหวังใหม่ เปิดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ท้า “ปุระชัย” ลงเล่นการเมือง อย่าหวั่น - หวาดกลัวถูกเปิดโปง ถ้ามั่นใจว่าเป็นนักการเมืองลงสนามเลือกตั้งได้เลย ชี้ “อภิสิทธิ์” ยุบสภาเป็นอำนาจโดยชอบธรรม ประกาศแล้วคงไม่ถอย ระบุ การยุบสภาเป็นทางออกของรัฐบาล หลังแก้ปัญหาความขัดแย้ง เรื่องปากท้องชาวบ้านไม่ได้ ต้องยุบสภา เพื่อแก้หน้าหนีปัญหา
วันนี้ (27 มี.ค.) เวลา 11.00 น.ที่ห้องประชุมธรรมาภิบาล เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พรรคความหวังใหม่ ได้เปิดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2554 โดย นายชิงชัย หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ ได้แถลงนโยบายพรรคแก่สมาชิกพรรค และกรรมการบริหารพรรคที่เข้าร่วมกว่า 500 คน ซึ่งนโยบายพรรความหวังใหม่ในปี 2554 นี้ จะเน้นการสร้างการปกครองแบบประชาธิปไตยให้เป็นจริง พร้อมประกาศสู้ศึกเลือกตั้งหากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาจริง
นายชิงชัย มงคลธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ นายกฯอภิสิทธิ์ อยู่ในภาวะที่หนีไม่ได้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองก็ไม่ได้ ซึ่งการยุบสภาก็จะเป็นทางออกที่ดีของรัฐมนตรี ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน แต่ที่จริงแล้วน่าจะยุบสภามาตั้งนานไม่รู้รออะไร เพราะถ้าหากจะยุบสภาจริงก็เป็นสิทธิ์ของนายกฯคนเดียวที่สามารถทำได้ รัฐธรรมนูญบางครั้งยังสามารถยกเว้นบางข้อได้ด้วยซ้ำ
แต่นายกฯ เองได้ประกาศชัดเจนว่าจะยุบสภาประกาศไปแล้ว คงยุบจริงถอยก็ไม่ได้แล้ว แต่สิ่งหนึ่งต้องฝากไว้ เพราะการเลือกตั้งไม่ได้แก้ไขปัญหาบ้านเมือง ปัญหาทุกวันนี้ต้องให้ประชาชนซึ่งเป็นคนมีอำนาจสูงสุดในระบอบประชาธิปไตยเป็นผู้ตัดสิน
ทั้งนี้ ประเมินล่วงหน้าได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มอิ่มตัวกับการเมือง เพราะจากโพลที่ออกมาพบว่า ร้อยละ 58 ประชาชนไม่ต้องการพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคู่ขัดแย้ง หรือพรรคทางเลือกใหม่ เข้าใจว่า ประชาชนคงเบื่อหน่าย ส่วนการเกิดความขัดแย้งไม่สิ้นสุด เชื่อว่า น่าจะเป็นผลพวงจากการที่ประชาชนต้องการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และวันนี้เขาเข้าใจดีว่ารัฐบาล หรือสถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยจริงๆ และไม่มีความสมบูรณ์แบบ
แต่วันที่จะประกาศยุบสภาของนายกฯอภิสิทธิ์ วันนั้นก็ไม่ได้การันตีว่ารัฐบาลชุดนี้ หรือตัวนายกฯได้แก้ปมปัญหาชาติบ้านเมืองแล้ว เพราะการยุบสภาไม่ใช่ทางออกของประเทศ แต่เป็นเพราะรัฐบาลและตัวนายกฯ รวมถึงผู้มีอำนาจทั้งหมดอยู่ในสถานการณ์บีบคั้น ทั้งจากม็อบ ความขัดแย้งของประชาชน ความขัดแย้งในระบบสภาและปัญหาด้านต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามา
นายชิงชัย กล่าวต่ออีกว่า การเลือกตั้งหลังจากการยุบสภา ที่ถือว่าเป็นการเลือกตั้งในระบอบเผด็จการเหมือนเดิม กำหนด 45-60 วัน ในการจัดการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่แสดงได้ชัดเจน ทั้งนี้ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นคงจะกลับเข้าไปสู่วงจรอุบาทว์เหมือนเดิม เริ่มตั้งแต่การซื้อและขายตัวของบรรดาอดีตส.ส.มีดีกรีต่างๆ จนกระทั่งการหาเสียงที่ไม่ได้เน้นการขอคะแนน
แต่เป็นการซื้อเสียงด้วยการหว่านเม็ดเงิน เลือกตั้งครั้งนี้คงหนีไม่พ้นรูปแบบการเมืองวงจรอุบาทว์ ขณะที่กรณีของ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ที่เตรียมเปิดตัวพรรคประชาสันติ ชูเรื่องการปรองดอง ความยุติธรรม ความเป็นธรรม ความซื่อสัตย์ โดยมีสโลแกนของพรรค คือ ประชาสามัคคี อยู่ดีมีสุข ทุกที่เป็นธรรมนำชาติศิวิไลซ์ นั้น
ในส่วนตัวมองว่า ตัว ร.ต.อ.ปุระชัย เป็นคนหนึ่งที่ประชาชนรู้จักมาก ก็อยากให้ลงมาแข่งขันในสนามเลือกตั้งได้เลย และอย่ากลัว หวาดหวั่นอะไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่จะถูกเปิดโปง หรือเรื่องของการปะทะ และชนกับปัญหาที่จะถาโถมเข้ามา ถ้ามั่นใจว่าเป็นนักการเมืองแล้วอย่ากลัวในสิ่งเหล่านี้ ให้เล่นการเมืองได้เลย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคความหวังใหม่ จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาปากท้อง และเดินหน้าสร้างประชาธิปไตยให้เป็นจริง โดยคำนึงถึงกิจกรรมการเมือง เพื่อนำไปสู่ความเจริญผาสุกของประชาชน ความเจริญของชาติบ้านเมือง โดยจะส่งผู้สมัครลงสมัครให้มากที่สุด แต่ในส่วนตัวแล้วจะอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อออกหาเสียงช่วยลูกพรรค