“สุเทพ” ลั่นปราบอิทธิพลก่อนเลือกตั้ง

นครปฐม - “สุเทพ” สั่นเจ้าหน้าที่รัฐต้องปราบปรามยาเสพติดอย่างยั่งยืน ไร้อุ้มฆ่าแบบที่เคยมี พร้อมบอกเอาจริงปราบกลุ่มอิทธิพล โดยเฉพาะกลุ่มมีอาวุธสงคราม เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งต้นเดือนพฤษภาคมเป็นไปอย่างสงบ

วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงสัญญาประชาคมเพื่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ณ ตำรวจภูธรภาค 7 อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

โดยมี นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดนครปฐม กล่าวต้อนรับและกล่าวบรรยายสรุปการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในจังหวัดนครปฐม

จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามร่วมกันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ (MOU) ในการบูรณาการร่วมมือ เพื่อเอาชนะยาเสพติดอย่างจริงจังหวัดในพื้นที่จังหวัดนครปฐม

โดยมีตัวแทน คือ นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านเพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดนคปฐม นายพเยาว์ เนียะแก้ว นายกองค์การบริหารส่งจังหวัดนครปฐม ผู้อำนายการสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 7 นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม นายกเทศบาลเมืองไร่ขิง นายกเทศบาลเมืองสามพราน นายกเทศมนตรีตำบลนครชัยศรี นายกเทศมนตรีเมืองกระทุ่มล้ม ผู้อำนวยการพื้นที่การศึกษานครปฐม ประถมศึกษาเขต 1 โดยมีสักขีพยานกว่า 1,000 คน เข้าร่วมในพิธีลงนามดังกล่าว

ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมของข้าราชการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อติดตามผลผู้เข้ารับการบำบัดภายหลังจากผ่านการเข้าค่ายฝึกอบรมบำบัดยาเสพติด และเยี่ยมชมกิจกรรมการเข้าค่ายบำบัดตามโครงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในเขตชุมชนเมือง รวมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการติดตามผู้เสพภายหลังการเข้าค่ายบำบัดอีกด้วย

โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในพิธีการ ว่า ในการจัดการเรื่องปัญหายาเสพติดนั้นเป็นนโยบายที่นายรัฐมนตรีเน้นอย่างจริงจัง แต่ก็เป็นไปตามกระบวนการกฎหมายไม่มีการใช้ความรุนแรง หรือการอุ้มฆ่าเหมือนที่เคยมีมา และตั้งเป้าใน 3 เดือนนี้จะต้องมีการดำเนินการในการปราบปรามอย่างชัดเจน และจริงจังแต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ที่ยั่งยืนเพื่อนำผู้ค้าเดข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

“เรื่องที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากมาถึงผู้นำชุมชนในครั้งนี้ คือ การที่จะต้องมีการเลือกตั้งในต้นเดือนพฤษภาคม 2554 ที่จะถึงนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เลือกตั้งตามสิทธิอย่างเป็นธรรม จึงจำเป็นที่ผู้รักษากฎหมาย ทั้งตำรวจและฝ่ายปกครองจะต้องมีการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอาวุธสงคราม เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างเรียบร้อย” นายสุเทพ กล่าว

จากนั้นคณะของรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อด้วยรถยนต์เพื่อไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อปฏิบัติหน้าที่ยังพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีต่อไป