xs
xsm
sm
md
lg

ศุลกากรแหลมฉบังคุมเข้มสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นหวั่นมีสารกัมมันตรังสี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายยุทธนา   พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังวางมาตรการควบคุมสินค้าที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น หลังโรงฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ระเบิด ทำให้สารกัมมันตรังสีรั่วไหลสู่ธรรมชาติ-แหล่งน้ำ หวั่นอาหาร-สิ่งของมีสารปนเปื้อน

นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี กล่าวถึงกรณีเกิดแผ่นดินไหวและเกิดคลื่นสินามิที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค.54 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ได้รับความเสียหาย ทำให้สารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วไหลสู่ธรรมชาติและแหล่งน้ำในอัตราที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของประชาชน ซึ่งล่าสุดมีการตรวจพบสารกัมมันตรังสีปนเปื้อนในอาหาร เช่น นมผง และผักขมในประเทศญี่ปุ่น

โดยปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น หวั่นส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับสารดังกล่าว ดังนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกๆ ประเทศ ได้วางมาตรการป้องกันสินค้าที่ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะประเทศไทย ได้มีมาตรการตรวจสอบ, ป้องกันสารดังกล่าว โดยสินค้าที่ส่งมาจากประเทศญี่ปุ่นจะเข้ามาในประเทศไทยนั้นจะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดสินค้าทุกประเภท และที่สำคัญ คือ นมผง และผักขม จะต้องควบคุมและตรวจสอบเป็นพิเศษ

นายยุทธนากล่าวต่อไปว่า สำหรับศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังนั้น เป็นสถานที่ที่วางมาตรการเข้มงวด ด้านการป้องกันอันตรายจากสินค้าทุกประเภทอยู่แล้ว ที่นำเข้าและส่งออกผ่านท่าเรือแหลมฉบัง โดยที่ผ่านมามีการติดตั้งเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สารอันตราย เช่น ระเบิดนิวเคลียร์, สารกัมมันตรังสี ชนิดต่างๆ ทั้งสิ้น 32 เครื่อง ทั่วทุกเส้นทางภายในท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา

สำหรับสินค้าในช่วงนี้มีการนำเข้า-ส่งออกเป็นไปตามปกติ หรือลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนใหญ่สินค้าจากประเทศญี่ปุ่นนั้นจะมีเครื่องจักร และอุปกรณ์ด้านเครื่องไฟฟ้าและอุปกรณ์ด้านอิเลกโทรนิกส์ จะมาทางเรือสินค้าเป็นส่วนใหญ่ โดยจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 10-15 วัน จะถึงเมืองไทยจึงไม่เหมาะจะขนส่งสินค้าประเภท สินค้าอาหารหรือสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งส่วนใหญ่จะมาทางสายการบินเพราะจะรวดเร็วและสะดวก ดังนั้น ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังจึงไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

นายยุทธนากล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยจะทำการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และในช่วงนี้ได้เพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยมีทั้งเครื่องเอ็กเรย์ ที่ติดตั้งอย่างถาวรบนท้องถนน และเครื่องมือที่ใช้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไม่มีสารดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่อย่างแน่นอน และที่สำคัญทางประเทศญี่ปุ่นก็วางมาตรการเข้มงวดเช่นกัน หากจะส่งสินค้าต่างๆมาประเทศไทยหรือประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่อาจจะมีสารดังกล่าวปนเปื้อน

ขณะนี้ทางศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน โดยตั้งจุดรับบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนและผู้ประกอบการในทาเรือแหลมฉบัง นำเงินมาช่วยเหลือเกือบ 1 แสนบาทแล้ว และคาดว่าหลังปิดกล่องรับบริจาคจะมีเงินช่วยเหลือประมาณ 1 แสนบาทอย่างแน่นอน เพราะทุกคนให้ความเห็นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น