เชียงราย - ผืนป่าเวียงป่าเป้า นับวันยิ่งวอดหนัก แม้ จนท.ป่าไม้-อุทยานฯ เข้าตรวจยึดแล้ว กลับถูกบุกรุกครอบครองซ้ำ แถมวางยา-ตัดไม้ใหญ่กันเหี้ยน แฉพ่อนายตำรวจ อดีต ผญบ.เป็นหัวโจก-นำลูกบ้านถางป่าขายนายทุน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า ได้ร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 และกรมป่าไม้ หลายครั้ง ว่า มีกลุ่มทุนและอดีตผู้นำท้องถิ่น เข้าไปบุกรุกผืนป่าต้นน้ำแม่ฉางข้าว ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบคาบเกี่ยวระหว่างสององค์กรดังกล่าวจนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยวิธีหนึ่งที่ใช้กันคือการเจาะต้นไม้เป็นรูและนำยาฆ่าหญ้าใส่เข้าไปจนทำให้ต้นไม้แห้งตายภายใน 1-2 เดือนเพื่อหาเหตุโค่นและแผ้วถางเข้ายึดครอง
ปรากฏว่า ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ เข้าไปตรวจสอบ และตรวจยึดพื้นที่ป่าทางฝั่งตะวันตกคืนมาได้บางส่วน แต่ล่าสุด พบว่า ได้มีการรุกผืนป่าอย่างหนักในฝั่งตะวันออกใต้อ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าวอีกแล้ว รวมทั้งผืนป่า พื้นที่เดิมที่เคยตรวจยึดก็มีการกลับเข้าไปบุกรุกเช่นกัน ทั้งยังหนักกว่าเดิม คือ มีการโค่นต้นไม้ที่ยืนต้นตายจากการนำยาฆ่าแมลงไปใส่เอาไว้ตั้งแต่ต้น พร้อมทำการเผาแผ้วถางยึดครองปลูกพืชต่างๆ อย่างถาวรด้วย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในพื้นที่มีอดีตผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งเข้าบุกรุกป่าทั้งสองผืนด้วยตัวเองอย่างหนัก ทั้งที่ผืนป่าดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้และอุทยานเข้าตรวจยึดคืนมาแล้ว 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็มีการบุกรุกครอบครองอีก โดยอ้างว่าไม่กลัวใครเพราะมีลูกชายเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.อยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี
เมื่ออดีตผู้ใหญ่บ้านดังกล่าวรุกป่า จึงทำให้คนอื่นๆ ที่เคยเกรงกลัวเจ้าหน้าที่พากันกลับไปบุกรุกตัดไม้และแผ้วถางกันอย่างขนานใหญ่ เพื่อนำไปขายให้กับนายทุนจนกระทบกับป่าต้นน้ำแม่ฉางข้าว อ.เวียงป่าเป้า อย่างหนัก
ด้าน นายบุญเริ่ม ปวงน้อย กำนัน ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย บอกว่า ปัจจุบันมีป่าต้นน้ำถูกทำลายรวมกันแล้วนับหมื่นไร่ แม้จะมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบหลายครั้ง ซึ่งตนก็ยังสงสัยอยู่ว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ และสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ จะกระทบต่ออ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว ซึ่งหล่อเลี้ยงชาวเวียงป่าเป้าและอำเภอใกล้เคียง รวมทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอด้วย