คนแม่สลองรุมต้านทหารฮุบที่ทำกินปลูกป่า

เชียงราย - ชาวบ้านบนดอยแม่สลองฮือประท้วงกองทัพไทย หลังถูกยึดที่ทำกินปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ชาวบ้านจากหมู่บ้านรวมใจ หมู่บ้านหล่อโย หมู่บ้านเฮโก และหมู่บ้านแสนเจริญใหม่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน และหมู่บ้านป่าคาสุขใจ ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ประมาณ 200 คน ได้รวมตัวกันที่หมู่บ้านรวมใจเพื่อเรียกร้องให้กองอำนวยการโครงการปลูกป่า กองบัญชาการกองทัพไทย พื้นที่บ้านสันติคีรี ดอยแม่สลอง เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ให้แก้ไขปัญหากรณีเข้าดำเนินการปลูกป่าและพัฒนาการเกษตรตามนโยบายของกองทัพไทยบนเนื้อที่ 9,074 ไร่พื้นที่สูงชันเขต อ.แม่ฟ้าหลวง และ อ.แม่จัน แต่ได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน

โดยปัญหาเกิดขึ้นหลังจากโครงการได้เข้าไปตรวจสอบสถานที่เพื่อปลูกป่า โดยได้เข้าไปตั้งร้านค้าชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวเขตหมู่บ้านเฮโก และหมู่บ้านรวมใจ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ติดถนนสายแม่จัน-ดอยแม่สลอง เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่กว่า ซึ่งชาวบ้านหลายหมู่บ้านใช้สำหรับตัดหญ้าคา เพื่อนำมามุงหลังคาบ้านเป็นประจำทุกปี

และเมื่อชาวบ้านไปชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปดำเนินการ ปรากฏว่า ทาง พล.ต.ฉลวย แย้มโพธิ์ใช้ ผู้อำนวยการโครงการ กลับไม่ยินยอม นอกจากนี้ ยังเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่หลายครั้ง โดยมีการแจ้งให้ชาวบ้านย้ายออกไปจากพื้นที่ที่กำลังทำการเกษตร จนชาวบ้านบางรายกลัวทิ้งอุปกรณ์เครื่องพ่นยาฆ่าหญ้าและอื่นๆ จนถูกยึดเอาไว้

ต่อมา นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสมัชชาเพื่อการปฏิรูปประเทศ, นายวุฒิพงศ์ สวรรค์โชติ นายก อบต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง, นายสุพจน์ หลี่จา สมาชิก อบจ.เชียงราย เขต อ.แม่จัน, นายไชยวัฒน์ ชีวินมหาชัย ผญบ.หมู่บ้านรวมใจ ฯลฯ

รวมทั้งชาวบ้านได้หารือกันแล้วได้ข้อสรุปว่า ที่ผ่านมา เคยชี้แจงไปยังโครงการแล้วหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล จึงเกรงว่า จะสูญเสียที่ดินทำกิน ดังนั้น จึงได้ส่งตัวแทนประมาณ 100 คน พากันถือป้ายประท้วงไปยังสำนักงานโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสันติคีรี ซึ่งทาง พล.ต.ฉลวย ได้ออกมารับฟังสภาพปัญหาและรับฟังข้อเสนอแนะโดยดี

อย่างไรก็ตาม การเจรจาไม่ได้ข้อยุติ เพราะทาง พล.ต.ฉลวย ยืนยันไม่ใช่หน่วยงานที่กำหนดพื้นที่ดำเนินการ เพียงแต่เข้าไปพัฒนาด้วยการปลูกป่าและพืชเกษตรให้กับชาวบ้านเท่านั้น ส่วนร้านค้าชุมชนก็ดำเนินการล่วงหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อชาวบ้านไม่ต้องการก็ได้แจ้งยกเลิกการดำเนินการไปแล้ว

ในส่วนของพื้นที่อื่นๆ ก็ยังจะเดินหน้าตามแผน ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจพร้อมยื่นข้อเสนอ คือ ให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการจัดสรรที่ทำกินและพื้นที่ปลูกป่าโดยจะไม่มีการรุกพื้นที่เพิ่มเติม ขอให้ยุติการจับกุมในช่วงนี้ไปก่อนเพราะแต่ละฝ่ายเข้าใจแตกต่างกัน ซึ่งทาง พล.ต.ฉลวย รับจะนำไปพิจารณา

พล.ต.ฉลวย กล่าวว่า ตนพึ่งเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ได้ประมาณ 3 ปี แต่ก็ยืนยันว่า มีเจตนาดีในการฟื้นฟูสภาพป่าไม้ในพื้นที่และปลูกไม้ยืนต้นเพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการคืบหน้าไปมาก แต่กรณีของบางพื้นที่ที่มีปัญหาก็ได้มีการเจรจา และยกเลิกการดำเนินการไปแล้ว เหมือนกรณีร้านค้าชุมชนดังกล่าว แต่ในพื้นที่มีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเมื่อมีการดำเนินการตามกฎหมายใดๆ ทางโครงการคงไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้

ด้าน นายสุพจน์ และชาวบ้านหลายราย ระบุว่า การกำหนดพื้นที่ป่าของโครงการไม่มีชาวบ้านเข้าไปมีส่วนร่วม ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันหลายครั้ง เช่น กรณีพื้นที่ปลูกหญ้าคาเพื่อนำไปมุงหลังคาบ้านทางโครงการก็คงเห็นว่ารกร้างว่างเปล่า ส่วนชาวบ้านหลายหมู่บ้านเห็นเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อมีการเข้าไปดำเนินโครงการทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งขึ้น หรือหลายพื้นที่ชาวบ้านเคยทำกิน แต่หมุนเวียนเพื่อให้เกิดป่าไผ่ ก็ถูกยึดไปปลูกไม้ยืนต้นหมด เป็นต้น จึงเกรงว่าในอนาคตจะเกิดปัญหาไม่รู้จบ