เชียงราย - งานชาบนดอยแม่สลอง เชียงรายคึกคัก หลังจัดยาวตั้งแต่ 18 มีนาฯ ถึงวันนี้ (21 มี.ค.) พาณิชย์หวังบูมท่องเที่ยวก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์ คาดสะพัดมหาศาล
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากนางพิมพวรรณ ชาญศิลป์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ย่านการค้าชาดอยแม่สลอง” ณ สนามโรงเรียนสันติคีรี ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยมีนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำคณะข้าราชการที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนซึ่งประกอบการปลูกชาและเกษตรกรที่ปลูกชาบนดอยแม่สลอง เข้าร่วมในงานดังกล่าวครบครัน โดยวันนี้ (21 มี.ค.) จะเป็นวันสุดท้ายของงานดังกล่าว
ภายในงานมีการจัดการแสดงของชนเผ่าต่างๆ บนเวทีซึ่งมีความตระการตา สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนดอยแม่สลองอย่างมาก ขณะที่บริเวณงานมีการจัดแสดงนิทรรศการประวัติการปลูกชาดอยแม่สอง ผลิตภัณฑ์ชาชนิดต่างๆ การเชิญชวนจิบชา อาหารจากชา ฯลฯ รวมทั้งมีร้านค้าต่างๆ จากหลายจังหวัดทั่วประเทศนำสินค้าไปจัดแสดงจำนวนประมาณ 70 ร้าน ขณะที่บนดอยแม่สลองมีการพัฒนาด้านการพาณิชย์ต่างๆ มากมาย ซึ่งแตกต่างจากในอดีต เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ฯลฯ โดยพยายามอิงกับธรรมชาติและวิถีชีวิต
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วงก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ โดยเลือกพื้นที่ที่มีความพร้อม ซึ่งก็คือดอยแม่สลองในการนำร่องโครงการดังกล่าว ภายใต้งบประมาณ 20 ล้านบาท และตั้งเป้าจะมีผู้เดินทางไปชมงานประมาณ 50,000 คน
อย่างไรก็ตาม ช่วงต้นการจัดงานพบว่ามีฝนตกและสภาพอากาศหนาวเย็นอย่างมากทำให้บรรยากาศไม่คึกคักมากนัก แต่เมื่อผ่านพ้นช่วงอากาศดังกล่าวและเข้าสู่วันหยุดเสาร์และอาทิตย์ทำให้ภารในงานมีความคึกคักมากขึ้นตามเป้า
รางานข่าวแจ้งด้วยว่า ไร่ชาบนดอยแม่สลองมีจำนวนทั้งหมดประมาณ 60,000 ไร่ แบ่งเป็นชาอู่หลงประมาณ 18,000 ไร่และชาพื้นเมืองหรือชาอัสสัมประมาณ 32,000 ไร่ เกษตรกรมีต้นทุนในการปลูกไร่ละประมาณ 30,000-40,000 บาท และเมื่อปลูกเสร็จก็มีค่าดูแลไร่ละ 3,000 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากใบชามีราคาแพงโดยชาอูหลงเบอร์ 12 กิโลกรัมละ 40-100 บาท และหากเป็นชาอินทรีย์จะมีราคาที่สูงกว่าชาปกติทั่วไปกว่า 10 เท่าตัว โดยชาอินทรีย์อู่หลงเบอร์ 12 มีราคาสูงถึงกว่า 2,000 บาทต่อกิโลกรัม และเบอร์ 17 กิโลกรัมละ 1,000-3,600 บาท เป็นต้น