เพชรบุรี - ตำรวจกองปราบฯ นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นบ้านเช่ากลางเมืองเพชรจับแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบ-ทวงหนี้โหดได้เกือบ 30 รายทั้งชายฉกรรจ์และพนักงานบัญชีหญิง ปล่อยเงินกู้สุดโหดดอกร้อยละ 40 บาทต่อวัน มียอดเงินหมุนเวียนต่อเดือนกว่า 100 ล้านบาท หากลูกหนี้จ่ายไม่ตรงตามนัดก็จะถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ แถมใช้อาวุธ ปืนข่มขู่ ถึงขั้นขู่ฆ่า
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (15 มี.ค.) พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผกก.บก.ป., พ.ต.ท.ศตยุ ไชยสุวรรณ์ สว.กก.5 บก.ป. และ ร.ต.อ.ณรามินธร์ เทพจักรินทร์ รอง สว.บก.ป. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามกว่า 10 นาย บุกเข้าบ้านเลขที่ 144/2 หมู่ 3 ต.บ้านหม้อ อ.เมือง จ.เพชรบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่า ถูกแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบติดตามทวงหนี้โดยใช้วิธีการรุนแรงทำร้ายร่างกาย มีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ และอาฆาตขู่ฆ่า
บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเช่าเดี่ยว 2 ชั้น กว้างประมาณ 100 ตาราวา บริเวณลานจอดรถด้านหน้าและข้างบ้านพบรถจักรยานยนต์แบบผู้ชาย 22 คัน รถกระบะ 2 คัน และรถยนต์เก๋ง 1 คัน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณห้องโถงภายในบ้านพบพนักงานทวงหนี้เป็นชายฉกรรจ์ 23 คน และพนักงานบัญชีหญิง 3 คนรวมกลุ่มกันอยู่ มีนายณรงค์ศักดิ์ มุงขุนทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ 6 ต.หนองหม้อ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ รับเป็นผู้เช่าบ้าน และหัวหน้ากลุ่มทวงหนี้
เจ้าหน้าที่แสดงหมายศาลเพชรบุรีที่ 206/2554 ให้ดูและตรวจค้นบริเวณห้องกระจกด้านข้างที่กั้นเป็นที่ทำงานตรวจสอบพบเงินสดกว่า 300,000 บาท เอกสารการกู้เงินกว่า 3,000 ฉบับ บัญชีแบ่งสายทวงหนี้ ปืนพกสั้นขนาด 9 มม.1 กระบอก ปืนสั้นขนาด 11 มม.1 กระบอก ปืนยาวขนาด .22 อีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก
สอบสวนทราบว่า กลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบและทวงหนี้ของนายณรงค์ศักดิ์ เพิ่งมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นที่ทำงานหลักเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 40 ต่อวัน มีลูกหนี้ครอบคลุมในเขตจังหวัดเพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม กรุงเทพฯ และประจวบคีรีขันธ์ กว่า 3,000 ราย มีพนักงานทวงหนี้เก็บเงิน 23 คน แบ่งเป็น 10 สาย ประเมินเงินหมุนเวียนต่อเดือนสูงกว่า 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากพนักงานไปทวงเงินแล้วไม่ได้ตามที่กำหนดไว้ก็จะทำร้ายร่างกายลูกหนี้จนได้รับบาดเจ็บ มีการใช้อาวุธปืนข่มขู่ และขู่ฆ่าลูกหนี้ที่ชำระเงินไม่ตรงตามกำหนดบ่อยครั้ง
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายณรงค์ศักดิ์ ได้ยอมรับว่า เป็นเจ้าของกลุ่มและเป็นผู้นำเงินมาลงทุนปล่อยกู้ โดยเงินทุนได้มาจากการลงขันกันระหว่างพี่น้อง แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากจำนวนเงินหมุนเวียนมีจำนวนมาก
นอกจากนี้ จากการสืบสวนในทางลับของเจ้าหน้าที่ทราบว่า กลุ่มเงินกู้แห่งนี้เป็นสาขาย่อย ที่มีนายทุนชาวจังหวัดอุทัยธานี เป็นเจ้าของ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามขยายผลต่อไป