พิจิตร - บทเรียนราคาแพงแม่ม่ายลูก 2 เมืองชาละวันชักหน้าไม่ถึงหลัง แถมไม่รู้หนังสือ รับเป็นนายประกันให้เพื่อนบ้านและกู้หนี้นอกระบบแก๊งหมวกกันน็อกดอกเบี้ยโหด จากเงินต้นหลักหมื่นขาดส่งแรมปี กลายเป็น 2 แสนบาท ถูกทวงหนี้โหดข่มขู่สารพัด สุดท้ายยอมยกบ้านใช้หนี้ จนไร้ที่อยู่ต้องหอบลูกสาววัย 15 ปี อาศัยห้องส้วมวัดซุกหัว วอนสังคมเมตตาช่วยเหลือ
วันนี้ (23 ก.พ.) นางสังเวียน คงแหน อายุ 60 ปี เป็นแม่ม่ายมีลูก 2 คน คนโต คือ พลทหารธวัชชัย จัทรมณี อายุ 21 ปี เป็นทหารเกณฑ์ผลัด 2 จังหวัดลพบุรี กับลูกสาว คือ น.ส.วรรณนิภา เทียมศร อายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.3 ร.ร.สรรเพ็ชร์พิทยา เล่าถึงชีวิตที่แร้นแค้นและเป็นบทเรียนที่น่าจดจำว่า หลังจากสามีตาย ชีวิตก็ขาดผู้นำครอบครัว จึงยึดอาชีพขายกล้วยปิ้ง ขายผัก ขายแกงถุง อยู่ที่ตลาดหน้าวัดโพธิ์ประทับช้าง แต่ด้วยพิษเศรษฐกิจชักหน้าไม่ถึงหลัง ประกอบกับไม่รู้หนังสือ จึงไปกู้เงินหนี้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 20 จากแก๊งหมวกกันน็อกที่ปล่อยเงินกู้เก็บต้นและดอกเบี้ยรายวัน ครั้งแรกกู้ 2,000 บาท ส่งวันละ 100 บาท 24 วัน
จากนั้นก็ขยับกู้ไปจนถึง 10,000 บาท ส่งวันละ 500 บาท 24 วัน ใช้หนี้หมดแล้วก็กู้ใหม่จนเอาเงินไปสร้างบ้านเป็นห้องแถวชั้นเดียว บนที่ดินเช่าตรงข้ามกับวัดโพธิ์ประทับช้าง ทั้งยังได้ไปพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือค้ำประกันให้เพื่อนแม่ค้าด้วยกันอีก 4-5 ราย ที่ค้ำกันไปค้ำกันมา และมีบ่อยครั้งที่หาเงินส่งต้นส่งดอกไม่ได้ ก็กู้เงินแก๊งหมวกกันน็อกสีแดงไปใช้หนี้แก๊งหมวกกันน็อกสีดำ หรือกู้เงินแก๊งหมวกกันน็อกสีเขียวไปใช้หนี้แก๊งหมวกกันน็อกสีดำ กลายเป็นงูกินหางดินพอกหางหมู
ต่อมาขายของไม่ดี ไม่มีเงินส่งต้นและดอก เพื่อนแม่ค้าด้วยกัน 4-5 คนที่เธอไปค้ำให้ เก็บข้าวของหนีหนี้รายวัน ทิ้งภาระหนี้สิน ให้ตนที่เป็นคนค้ำประกันเกือบแสนบาทให้ส่งต้นส่งดอกแบบรายวันกับแก๊งปล่อยเงินกู้รายวันดอกเบี้ยโหด จนส่งไม่ไหว เวลาผ่านไปแค่ 1 ปีเศษ เงินต้นแค่หลักหมื่นกลายเป็น 2-3 แสนบาท
เธอบอกว่า ก่อนหน้านี้พยายามเข้าหาแหล่งทุนของรัฐบาล แต่เครดิตไม่ผ่าน เพราะทางธนาคารบอกว่าจะต้องเอาข้าราชการมาค้ำประกัน ซึ่งตนเป็นคนไร้ญาติขาดมิตรจึงหาคนค้ำประกันไม่ได้ เครดิตจึงไม่ผ่าน เมื่อเดือดร้อนจึงหน้ามืดคิดสั้นไปกู้เงินหนี้นอกระบบดอกเบี้ยโหด จนสุดท้ายต้องถูกยึดบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างเป็นการหักหนี้ดีกว่าถูกเด็ดชีวิต หรือถูกซ้อมเหมือนกับเพื่อนบ้าน 5 คน คือ นางวันเพ็ญ, นางรุ่งเรือง, นางคะนึง, นางนกคล้า, นางพนม ที่ทั้ง 5 คนนี้ตอนนี้ก็เก็บข้าวของหนีออกจากบ้านเพราะทนดอกเบี้ยโหดไม่ไหว
สุดท้ายไม่มีจ่ายจึงถูกทวงหนี้ด้วยระบบโหดทนไม่ไหว และเกรงกลัวอันตรายจะถึงตนเองและลูกสาวจึงยอมตัดสินใจยกบ้านและทรัพย์สินใช้หนี้พวกแก๊งเงินกู้รายวันดังกล่าวจนหมด
เธอบอกว่าตอนนี้ตนเองชีวิตลำบากมาก ยังดีที่ลูกชายไปรับใช้ชาติ เป็นห่วงก็แต่ลูกสาวที่เรียนอยู่ชั้น ม.3 ต้องมาตกระกำลำบาก เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตน ที่ไปเป็นเหยื่อของแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายวัน สุดท้ายจึงไร้ที่อยู่ ต้องมาอาศัยห้องส้วมของทางวัดโพธิ์ประทับช้างเป็นที่ซุกหัวนอน โชคดีที่เจ้าอาวาสยังใจดีเอาห้องส้วมของศูนย์จำหน่ายสินค้า OTOP ที่ทิ้งไว้รกร้างมาดัดแปลงให้ตนได้ใช้เป็นที่พักใช้หลบแดดหลบฝน
นางสังเวียนกล่าวว่า ถ้าลำพังเฉพาะตนเองก็พร้อมจะก้มหน้ารับชะตากรรม แต่อยากวิงวอนขอความเมตตากับผู้ใจบุญให้ช่วยอุปการะส่งเสียลูกสาวที่เรียนอยู่ชั้น ม.3 ให้ได้มีอนาคตทางการศึกษา เพื่อโตขึ้นมาจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของสังคมเหมือนอย่างที่เธอเจอ จนไร้ที่ซุกหัวนอน จนต้องไปอาศัยห้องส้วมของทางวัด
สำหรับผู้มีจิตเมตตาสามารถติดต่อให้ความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร โทร. 0-5661-1130, พัฒนาสังคมหน่วยที่ 35 จังหวัดพิจิตร โทร 0-5661-3531