รมต.สำนักฯ ยกนิ้ว “มาร์ค” ฟุ้งอยู่รอดมาได้ 2 ปีกว่า เพราะทำงานเพื่อส่วนรวม ไม่มีประโยชน์ส่วนตน เชื่อ ประชาชนเสียงข้างมากให้การยอมรับในระดับที่ดี กล่อมสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ ในอนาคตย่อมมีการแข่งขัน แต่ต้องควบคู่ไปกับความรับผิดชอบในการทำหน้าที่
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนกล่าวให้โอวาทและทิศทางในการดำเนินงานของรัฐบาล กับสมาคมวิทยุโทรทัศน์พัฒนาธุรกิจไทย (สว.พท.) ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมาเข้าพบว่า ตนขอขอบพระคุณกำลังใจที่ทุกคนมอบให้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญให้นายกฯมีกำลังใจในการทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประโยชน์ต่อบ้านเมือง สื่อมวลชนทุกท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ในการทำงานเพื่อประโยชน์ต่อสังคมและส่วนรวม ทั้งในฐานะผู้สร้างและในฐานะผู้ทำลาย ในปัจจุบันช่องทางการสื่อสารมีเพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณผู้ฟังผู้ชมนั้นมากขึ้นทุกๆวัน ในอนาคตโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิลทีวี รวมทั้งวิทยุชุมชนจะเป็นช่องทางที่สื่อสารครอบคลุมทั่วภูมิภาค ตั้งแต่กรุงเทพฯไปจนถึงชายแดนทุกจังหวัด เนื่องจากประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น สามารถติดสัญญาณการสื่อสารต่างๆได้ แต่การสื่อสารก็ควบคู่ไปกับการแข่งขัน และควบคู่ไปกับการรับผิดชอบในการทำงานต่อภาระหน้าที่ของเรา
นายองอาจ กล่าวต่อว่า พวกเรามีฐานะสื่อสารให้กับคนไทยที่รับรู้ข้อมูลข่าวสาร เพราะฉะนั้นสื่อมวลชนจึงต้องรับผิดชอบหน้าที่ยิ่งขึ้น หากเราขาดความรับผิดชอบสิ่งที่เราสื่อสารออกไปก็จะกลายเป็นภาระสังคมได้ สื่อมวลชนมีหน้าที่พัฒนาสังคมมากกว่าการเพิ่มภาระให้สังคม แต่ด้วยเหตุผลของการแข่งขัน ทั้งด้านเนื้อหาสาระ ความรวดเร็วในการนำเสนอ สิ่งเหล่านี้หากขาดความรับผิดชอบก็จะเกิดปัญหาได้ ตนอยากจะฝากสื่อมวลชนที่ทำงานด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ว่า นอกจากแข่งขันด้านเนื้อหาสาระ การแข่งขันในด้านความรวดเร็ว
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากความเรื่องรับผิดชอบการเสนอข่าวทางสังคม เพราะประชาชนมักรับรู้ข่าวทางวิทยุโทรทัศน์เป็นส่วนมาก และบางคนอาจจะรับฟังเพียงด้านเดียว แต่ตนเชื่อว่าโดยพื้นฐานของสื่อเรามีความรับผิดชอบ เมื่อเราเข้ามาทำงานในด้านนี้ แต่หลายครั้งหลายกรณีเราก็ทำงานโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจทำงานโดยไม่มีการตรวจสอบ ไตร่ตรองให้ชัดเจนก่อนสื่อสารให้ประชาชนอย่างเพียงพอ เพราะทุกท่านไม่ใช่เพียงเสนอข่าวแต่สามารถเสนอความคิดเห็น ความคิดบวกเข้าไปในนั้นด้วย เพราะฉะนั้นตนอยากฝากสิ่งเหล่านนี้เป็นข้อคิดให้กับทุกคนในฐานะสื่อมวลชนด้วยกัน ตนจะนำความปรารถนาดีของทุกท่านไปเรียนให้นายกฯทราบ
“นายกฯก็เป็นผู้หนึ่งที่ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมโดยไม่ยึดถือประโยชน์ส่วนตน ผมเชื่อว่าด้วยความปรารถนาดีของนายกฯจึงทำให้ท่านสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มาได้ตลอดเวลา 2 ปี กว่าที่ผ่านมา การตั้งใจทำงานของท่านนายกฯจึงทำให้เกิดการยอมรับจากพี่น้องประชาชนในส่วนข้างมากระดับหนึ่ง ผมมั่นใจว่า นายกฯจะนำพาประเทศของเราให้เดินหน้าต่อไปได้เท่าเทียมกับนานาอารยประเทศ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าว