ส.ส.กทม.ปชป.นัดประชุมหาทางช่วย “พนิช” หลังถูกเขมรรวบตัว “องอาจ” เผย ส.ส.สุดห่วงฝากให้กำลังใจครอบครัว 7 คนไทย ยันรัฐรุกช่วยสุดๆ แย้ม กต.มีแผนแล้ว ยังไม่คุยหาผู้สมัคร ส.ส.แทน ชี้ยังไกลเกิน เชื่อ กกต.คงไม่ลงโทษแรง วอนสมาชิกอย่าพล่ามไปเรื่อย ชี้ละเอียดอ่อน “พีระพันธุ์” เชื่อคลิปหวังผลการเมือง
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ การประชุมรัฐมนตรี และ ส.ส.ในส่วนของ กทม.เพื่อหารือถึงแนวทางช่วยเหลือ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกจับกุมตัวในพื้นที่ประเทศกัมพูชา โดยใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่ง นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการการประชุม ว่า ที่ประชุม ส.ส.กทม.มีความเป็นห่วง นายพนิช ที่ประสบปัญหาร่วมกับคนไทยอีก 7 คนที่ถูกจับกุมตัว ดังนั้น ส.ส.กทม.จึงนัดหารือเพื่อแกเปลี่ยนความคิดเห็น และที่ประชุมก็มีความเป็นห่วงจึงได้ฝากให้กำลังใจไปยังครอบครัวนายพนิช และครอบรัวของคนไทยทั้ง 7 คนด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการให้ความช่วยเหลือพรรคจะดำเนินการอย่างไร นายองอาจ กล่าวว่า รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่โดยใช้ทุกช่องทางเพื่อให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นคลี่คลายไปในทางที่ดี ซึ่ง ส.ส.ในส่วน กทม.ของพรรคก็ขอสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาล โดยเฉพาะที่กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการไว้แล้วตามขั้นตอน เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้เตรียมหาตัวผู้สมัครไว้แล้วทางพรรคประชาธิปัตย์ได้หารือหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ได้มีการหารือถึงเรื่องนี้ เพราะยังไกลเกินไป ส่วนการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาตัดสิทธินายพนิชหรือไม่นั้น ในที่ประชุมยังไม่ได้หารือเรื่องนี้ ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่น่ารุนแรงถึงขั้นรุนแรง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมนายองอาจ ได้ขอให้ ส.ส.ทั้งหมดอย่าออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความคิด เห็นในเรื่องนี้กับสื่อมวลชนอย่างพร่ำเพรื่อ โดยขอให้ทุกคนมีความเห็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาอธิปไตยแล้ว ยังเกี่ยวข้องกับคนของพรรคที่ไปทำงานให้กับนายกรัฐมนตรี รวมถึงเกี่ยวกันกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มเสื้อแดงที่รอใช้ปัญหาไปสร้างสถานการณ์อีกด้วย
นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส. กทม.ในฐานะ รมว.ยุติธรรม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงสถานภาพการเป็น ส.ส.ของนายพนิช ว่า ไม่น่าจะมีปัญหา อะไรสามารถใช้ต่อสู้ได้ และยังตั้งข้อสังเกตว่าคลิปที่นำมาเผยแพร่มีการตัดต่อเนื้อหา เพื่อตั้งใจที่จะใช้เป็นประโยชน์ทางการเมือง