น่าน - ตำรวจน่านรวบ 4 ชายชุดดำแก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ตระเวนทวงเงินลูกหนี้รายวันน่าน-แพร่ คิดดอกสูงถึงร้อยละ 20
วานนี้(20 มี.ค.)พ.ต.ท.ณรงค์ เทียนหอม รองผู้กำกับการฝ่ายปราบปราม สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วย พ.ต.ท.กมล แก้วนันทะ สวป.สภ.เมืองน่าน สอบสวนชายชุดดำจำนวน 4 คน คือนายศรราม (ขอสงวนนามสกุล) เยาวชนชายอายุ 17 ปี ชาว ต.คลองปูน อ.แกลง จ.ระยอง ,นายวุฒิชัย พงษไกร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.7 ต.หัวดง อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์ ,นายเจษฏาพร หาทรัพย์ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 ม.4 ต.คลองปูน อ.แกลง จ.ระยอง และนายสันติชัย นาคอินทร อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.6 ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท หลังรับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า ชายชุดดำทั้ง 4 คน มีพฤติการณ์ข่มขู่เรียกเก็บดอกเบี้ยโหดจากพ่อค้าแม่ค้า บริเวณร้านค้า ถ.ข้าหลวง ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน
ตำรวจชุดปราบปราม สภ.เมืองน่าน ได้เข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลาง เป็นเงินสดจำนวน 12,000 บาท เอกสารสัญญากู้เงิน และโพยเก็บเงินรายวัน พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า CBR สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน วษฉ 378 กทม. และยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน กมต.675 น่าน รวม 2 คัน
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเช่าบ้านพักในตัวเมืองน่าน เพื่อออกตระเวนเรียกเก็บเงินกู้นอกระบบจากพ่อค้าแม่ค้าทุกวัน และมีการตระเวนเก็บในพื้นที่จังหวัดน่าน-แพร่ด้วย โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 คนจะแต่งกายคล้ายกัน ด้วยการสวมเสื้อแจ็กเกตสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีดำ ใช้รถจักรยานยนต์ของกลางในการตระเวนเก็บเงินกู้รายวัน ซึ่งทั้งหมดรับสารภาพว่า เรียกเก็บเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ20 โดยจะมาเก็บเงินทุกวัน
เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ของกลางนำส่ง พ.ต.ต.ภัทราวุฒิ แจ้งอำพันธ์ สารวัตรเวร สภ.เมืองน่าน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้ยืมเงิน โดยเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ ” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นางเนาวรัตน์ โสมะ อายุ 58 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งและอาหารพื้นเมือง ถ.ข้าหลวง ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน เปิดเผยว่า ขายของได้ไม่ดี ขาดทุน มีรายได้วันละประมาณ 200-300 บาท ซึ่งก็ต้องเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน และใช้เป็นทุนหมุนเวียนค้าขาย โดยชายชุดดำ ด้มาเสนอเงินกู้ให้ ด้วยความจำเป็นต้องใช้เงิน จึงยอมกู้เงินนอกระบบจากชายกลุ่มนี้ เป็นเงินจำนวน 4,000 บาท และจะต้องจ่ายคืนทั้งหมด 4,800 บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 โดยจ่ายเป็นรายวันวันละ 200 บาท หากวันใดไม่มีจ่าย ก็จะถูกด่าว่า และบังคับให้ไปกู้ยืมเงินที่อื่นมาให้
นางเนาวรัตน์ ได้ร้องไห้ด้วยความอัดอั้นว่า ไม่ได้คิดจะบิดพลิ้วหนี้เงินกู้ แต่เมื่อหาเงินไม่ได้ ก็ขอเลื่อนจ่าย แต่ก็ถูกชายชุดดำด่าทอต่อว่า บังคับให้ไปหาเงิน ซึ่งตนก็ลำบาก และไม่อยากเป็นหนี้นอกระบบเพิ่มไปมากกว่านี้อีก เพราะตอนนี้ ก็มีหนี้นอกระบบที่ไปกู้ยืมมาหลายที่ บางที่กู้ยืม 15,000 บาท ต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย สัปดาห์ละ 1,500 บาท โดยไม่หักเงินต้น ตอนนี้มีหนี้นอกระบบรวมแล้วกว่า 60,000 บาท เนื่องจากต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการค้าขายและส่งลูกเรียน แต่ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารออมสินได้ เพราะติดขัดในเรื่องผู้ค้ำประกัน จึงจำเป็นต้องยอมกู้เงินนอกระบบ
ด้าน พล.ต.ต.ฉลองชัย บุรีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้า และผู้มีรายได้น้อย เกี่ยวกับเรื่องแก๊งปล่อยเงินกู้และการทวงหนี้โหด ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากถูกกลุ่มบุคคลที่ออกเงินกู้นอกระบบโดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด และมีการส่งชายฉกรรจ์มาข่มขู่บังคับทวงหนี้
จึงได้สั่งการให้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวและได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน จนจับกุมกลุ่มชายฉกรรจ์ที่รับหน้าที่เก็บเงินกู้และทวงหนี้ได้ โดยขณะนี้ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผลต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีนายทุนรายใหญ่เป็นผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง โดยกระจายพื้นที่และมอบหมายให้กลุ่มบุคคลกระจายพื้นที่ดูแลลูกหนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีอย่างจริงจัง พร้อมสอบสวนขยายผลให้ถึงตัวการใหญ่ต่อไป