ลำปาง - ช้างพังอุ้มผาง เหยื่อพรานโหดยิงปืนแก๊ปฝังในลูกตา เริ่มอาการดีขึ้น ล่าสุดสามารถลืมตาได้แล้ว ขณะที่ทีมสัตวแพทย์ ยันไม่ใช้วิธีวางยา-ผ่าตัดแน่ หวั่นกระทบลูกช้างในท้องที่กำหนดคลอดอีก 3 เดือน แต่จะรอให้ช้างคัดหลั่งหนองขับลูกปืนออกเองแทน
หลังจากทีมสัตวแพทย์โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย) อ.อ.ป.จังหวัดลำปาง ได้ทำการรักษาดวงตาข้างขวาของช้างพังอุ้มผาง ที่ถูกพรานป่าใช้อาวุธปืนแก๊ปยิงเข้าใส่บริเวณใบหน้าของช้าง และมีกระสุนปืนสองนัดที่ฝังในดวงตาของช้าง ระหว่างควาญนำพังอุ้มผางปล่อยเลี้ยงในป่าธรรมชาติ หลังศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย
ล่าสุดวันนี้( 11 มี.ค.) สัตว์แพทย์ ได้ใช้วิธีล้างทำความสะอาดดวงตาและหยอดตาด้วยยาฆ่าเชื้อ ยาควบคุมการติดเชื้อ โดยไม่ใช้วิธีการฉีดยาปฏิชีวนะเข้าเส้นเลือด เนื่องจากเกรงจะเป็นอันตรายต่อลูกช้างที่อยู่ในท้องเพราะพังอุ้มผางตั้งท้องได้กว่า 16 เดือนแล้ว และมีกำหนดคลอดในอีก 3 เดือนข้างหน้า จึงต้องใช้วิธีล้างและยอดตาและให้กินยาวิตามินยาบำรุงไปด้วย
นายสัตว์แพทย์ ดร.สิทธิเดช มหาสาวังกูล หัวหน้าโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยฯ เปิดเผยว่า หลังให้การรักษาและตรวจดูสภาพบาดแผลแล้วพบว่าในวันนี้(11 มี.ค.) ช้างสามารถลืมตาได้แล้ว แต่ดวงตายังเป็นสีขุ่น ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และจะต้องรักษาวิธีนี้ไปเรื่อยๆ เพราะหากรักษาด้วยการวางยาผ่าเอากระสุนปืนที่ฝังในออก จะส่งผลต่อลูกในท้องทันที
“ปกติแล้วหากร่างกายหรือผิวหนังของช้างมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไป จะมีการคัดหลั่งหนองและขับสิ่งแปลกปลอมออกมาแต่ต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับตวงตาของช้างเชือกนี้ ก็ต้องรอให้หนองขับเอาลูกกระสุนปืนออกมา โดยทางสัตว์แพทย์จะล้างและเช็ดทำความสะอาดทุกวันจนกว่าช้างจะจะขับกระสุนปืนออกมาเอง ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง”