ยะลา - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงใต้เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์กลางเมืองยะลา ที่ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 9 ราย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือและเข้าพบปะประชาชนในบริเวณที่เกิดเหตุ
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องไอซียู ชั้น 2 และตึกศัลยกรรมชาย/หญิง อาคารโรงพยาบาลศูนย์ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์หน้าร้านเฮนเบเกอร์รี่ บริเวณถนน ณ นคร ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา
โดยมีนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายประมุข ลมุล รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ต.สุรพงษ์ เขมะสิงคิ รองผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมให้การต้อนรับ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหาร 3 ราย คือ 1.ส.อ.ชานนทร์ สอนแก้ว จำนวนเงิน 50,000 บาท 2.ส.อ.ประสิทธิ์ อิสโร จำนวนเงิน 50,000 บาท 3.พลทหารวรินรัตน์ จันดี จำนวนเงิน 50,000 บาท
และชาวบ้านอีก 6 ราย คือ 1.นายเดชรรงค์ พันธ์ชู จำนวนเงิน 50,000 บาท 2.นายสมศักดิ์ รักพงษ์ จำนวนเงิน 30,000 บาท 3.นายหมู แซ่เซีย จำนวนเงิน 30,000 บาท 4.นายสุวัฒน์ ไตรวงศ์เจริญสุข จำนวนเงิน 10,000 บาท 5.นางปภาคา ผิวเกลี้ยง จำนวนเงิน 10,000 บาท 6.น.ส.อังคณางค์ ภัทรพงส์พันธ์ จำนวนเงิน 10,000 บาท ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งได้มอบประเช้าเยี่ยมให้กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
หลังจากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางไปพบปะให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครยะลาที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุ พร้อมทั้งพบปะให้กำลังใจแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวน 24 รายที่บริเวณ 4 แยก ถนนไชยจรัส ตัด ถนน ณ นคร พร้อมตรวจเยี่ยมจุดที่เกิดเหตุ รับฟังข้อมูลจากนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ในจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา นั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ทำหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อย่างเต็มที่แล้ว แต่คนร้ายก็ยังพยายามสร้างความไม่สงบขึ้นในพื้นที่ โดยอาศัยปะปนมากับประชาชนทั่วไป หลายคนอาจจะตั้งข้อสังเกตเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ตนเองขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ว่ารัฐบาลมีความเข้าใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยว่าได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่แล้ว
ทั้งนี้จะสังเกตได้ว่า การก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายนั้นมักจะปะปนมากับประชาชนธรรมดา ซึ่งในครั้งนี้กล้องวงจรปิดที่มีการติดตั้งในจุดเกิดเหตุสามารถจับภาพของคนร้ายได้ 1 คน ซึ่งได้นั่งรถจักรยานยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้ได้เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะได้เพิ่มความเข้มในการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของการตั้งด่านสกัด การตั้งจุดตรวจ ซึ่งก็จะต้องขอความร่วมมือจากประชาชนและขอความอภัยที่อาจจะไม่สะดวกในการเดินทาง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทางราชการจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคน โดยในเบื้องต้นนั้นจะจ่ายให้ส่วนหนึ่ง และหลังจากนี้อีกประมาณไม่เกิน 1 เดือน หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าประเมินความเสียหายแล้วก็จะจ่ายให้ครบตามความเป็นจริงทั้งหมด ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะให้การดูแลรักษาเป็นอย่างดี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนของการสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนและนักธุรกิจในพื้นที่นั้น ทางรัฐบาลจะเร่งสร้างขวัญกำลังใจโดยการเพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยโดยจะมีการตั้งด่านตรวจ และจุดตรวจให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นที่ โดยเฉพาะกล้องของกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีการประมูลติดตั้งเมื่อปี 2550 แต่ผู้รับเหมาที่ประมูลได้ มีการทิ้งงาน ซึ่งขณะนี้ได้ผู้รับจ้างใหม่แล้วคาดว่าจะมีการติดตั้งให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
สำหรับกลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มใหม่เป็นกลุ่มของนายอหมัด ตือง๊ะ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.ยะลา และทางการข่าวกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้มีส่วนเชื่อมโยงไปยังคดีลอบวางระเบิดรถยนต์ของพรานป่า 9 ศพ ที่ ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา และลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุดรบพิเศษ ที่ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา