ตาก - พม่าเข้มงวดสั่งห้ามสินค้าไทยข้ามฝั่ง หลังไทยห้ามไม่ให้ส่งน้ำตาลข้ามฝั่ง ด้านด่านศุลกากรแม่สอดแจงยอดส่งออกน้ำมันปาล์มถ่ายลำเพิ่มขึ้นปีลำ 10-15% ทุกปี
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมกรรมการการค้าชายแดนพม่า ประจำจังหวัดเมียวดี ได้มีการประชุมคณะกรรมกรและนักธุรกิจพ่อค้าพม่า ร่วมกันเพื่อให้นโยบายและมาตรการด้านการค้าชายแดนกับฝ่ายไทย ภายหลังได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้เข้มงวดสินค้าไทย โดยห้ามไม่ให้มีการส่งสินค้าข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งพม่าอย่างเด็ดขาด ซึ่งทางพม่าได้ติดต่อมายังเจ้าของท่าเรือขนส่งสินค้าแจ้งว่า ห้ามส่งสินค้าไทยไปพม่า ทำให้สินค้าไทยตกค้างอยู่บนเรือ และตามริมฝั่งแม่น้ำเมยจำนวนมาก
เจ้าของท่าเรือขนส่งริมแม่น้ำเมยแจ้งว่า สาเหตุที่พม่าห้ามไม่ให้สินค้าไทยข้ามไปฝั่งพม่านั้น เข้าใจว่าฝ่ายพม่าต้องการตอบโต้รัฐบาลไทยที่เข้มงวดและสกัดจับกุมการลักลอบขนน้ำตาลทรายจากฝั่งไทยไปพม่า เพื่อควบคุมน้ำตาลในประเทศ โดยก่อนหน้านี้นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางมาประชุมกับเจ้าหน้าที่ไทยที่ชายแดนไทย-พม่า อำเภอแม่สอด และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดน ฝ่ายความมั่นคงให้เข้มเข้มงวดการน้ำตาลทรายที่ผิดกฎหมายที่มีการลักลอบส่งออกไปพม่า ทำให้พม่าไม่พอใจในมาตรการดังกล่าว
อย่างไรก็ดี การที่พม่าเข้มงวดห้ามสินค้าไทยส่งไปพม่า อาจจะเป็นไปได้ว่าพม่าต้องระมัดระวังและป้องกันจังหวัดเมียวดีกับการถูกก่อวินาศกรรม เช่น วางระเบิดกับสินค้า ภายหลังมีข่าวว่ากองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย จะโจมตีจังหวัดเมียวดีในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งขณะนี้ นักเรียนในโรงเรียนต่างๆ ของพม่ากำลังสอบใกล้จะแล้วเสร็จ จึงต้องห้ามสินค้าเข้าไป เพราะเกรงว่าจะมีอาวุธและวัตถุระเบิดบรรจุในกล่องสินค้าเข้าไปด้วย
แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงแจ้งว่า ก่อนที่ฝ่ายพม่าจะไม่ให้สินค้าไทยไปฝั่งพม่านั้น ฝ่ายพม่าได้เชิญพ่อค้าพม่าประชุม และขอความร่วมมือไม่ให้ซื้อสินค้าไทยเข้าไป ขณะที่บางกระแสข่าวแจ้งว่า มีนายทหารระดับสูงไปตรวจราชการที่เมียวดี ทำให้ฝ่ายพม่าต้องเข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษ
สำหรับการส่งออกสินค้าในระยะนี้ ฝ่ายไทยส่งสินค้าไปพม่าเป็นมูลค่า 800-900 ล้านบาทต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ในช่วงก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ เพราะประชาชนชาวพม่ามีความต้องการสินค้าเพื่อนำไปใช้ในช่วงสงกรานต์
นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ชายแดนไทย-พม่า กล่าวว่า ช่วงปีงบประมาณ 2554 (ระหว่างเดือนตุลาคม 2553 - มีนาคม 2554) ด่านศุลกากรแม่สอด สามารถจับกุมการลักลอบส่งน้ำตาลทรายผิดกฎหมายไปฝั่งพม่า 8 ครั้ง จำนวน 135 กระสอบ น้ำหนัก 6,750 กก. มูลค่าของกลาง 148,500 บาท โดยจับกุมได้ตามท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมย ตลอดแนวชายแดน ซึ่งผู้กระทำผิดมีพฤติการณ์พยายามลักลอบนำน้ำตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร จนชุดสืบสวน-สอบสวน ของด่านแม่สอดได้ลาดตระเวนและตรวจพบ โดยมีชื่อบริษัทที่ผลิตติดอยู่ที่กระสอบด้วย
ส่วนเรื่องน้ำมันปาล์ม ด่านศุลกากรแม่สอดมีสถิติสินค้าถ่ายลำ ช่วงปี 52-54 เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดย ในปี 2552 มีปริมาณส่งออก 59,852,402.57 กก.มูลค่า 1,673,083,948.72 บาท ในปี 2553 ปริมาณส่งออก 86,968,249.58 กก. มูลค่า 2,535,568,779.31 บาท และล่าสุดในปีงบประมาณ 2554 เพียง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 10-15% แล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่าคณะกรรมกรรมการการค้าชายแดนพม่า ประจำจังหวัดเมียวดี ได้มีการประชุมคณะกรรมกรและนักธุรกิจพ่อค้าพม่า ร่วมกันเพื่อให้นโยบายและมาตรการด้านการค้าชายแดนกับฝ่ายไทย ภายหลังได้รับคำสั่งจากหน่วยเหนือให้เข้มงวดสินค้าไทย โดยห้ามไม่ให้มีการส่งสินค้าข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งพม่าอย่างเด็ดขาด ซึ่งทางพม่าได้ติดต่อมายังเจ้าของท่าเรือขนส่งสินค้าแจ้งว่า ห้ามส่งสินค้าไทยไปพม่า ทำให้สินค้าไทยตกค้างอยู่บนเรือ และตามริมฝั่งแม่น้ำเมยจำนวนมาก
เจ้าของท่าเรือขนส่งริมแม่น้ำเมยแจ้งว่า สาเหตุที่พม่าห้ามไม่ให้สินค้าไทยข้ามไปฝั่งพม่านั้น เข้าใจว่าฝ่ายพม่าต้องการตอบโต้รัฐบาลไทยที่เข้มงวดและสกัดจับกุมการลักลอบขนน้ำตาลทรายจากฝั่งไทยไปพม่า เพื่อควบคุมน้ำตาลในประเทศ โดยก่อนหน้านี้นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้เดินทางมาประชุมกับเจ้าหน้าที่ไทยที่ชายแดนไทย-พม่า อำเภอแม่สอด และสั่งการให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดน ฝ่ายความมั่นคงให้เข้มเข้มงวดการน้ำตาลทรายที่ผิดกฎหมายที่มีการลักลอบส่งออกไปพม่า ทำให้พม่าไม่พอใจในมาตรการดังกล่าว
อย่างไรก็ดี การที่พม่าเข้มงวดห้ามสินค้าไทยส่งไปพม่า อาจจะเป็นไปได้ว่าพม่าต้องระมัดระวังและป้องกันจังหวัดเมียวดีกับการถูกก่อวินาศกรรม เช่น วางระเบิดกับสินค้า ภายหลังมีข่าวว่ากองกำลังทหารกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย จะโจมตีจังหวัดเมียวดีในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งขณะนี้ นักเรียนในโรงเรียนต่างๆ ของพม่ากำลังสอบใกล้จะแล้วเสร็จ จึงต้องห้ามสินค้าเข้าไป เพราะเกรงว่าจะมีอาวุธและวัตถุระเบิดบรรจุในกล่องสินค้าเข้าไปด้วย
แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงแจ้งว่า ก่อนที่ฝ่ายพม่าจะไม่ให้สินค้าไทยไปฝั่งพม่านั้น ฝ่ายพม่าได้เชิญพ่อค้าพม่าประชุม และขอความร่วมมือไม่ให้ซื้อสินค้าไทยเข้าไป ขณะที่บางกระแสข่าวแจ้งว่า มีนายทหารระดับสูงไปตรวจราชการที่เมียวดี ทำให้ฝ่ายพม่าต้องเข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษ
สำหรับการส่งออกสินค้าในระยะนี้ ฝ่ายไทยส่งสินค้าไปพม่าเป็นมูลค่า 800-900 ล้านบาทต่อเดือน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ในช่วงก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ เพราะประชาชนชาวพม่ามีความต้องการสินค้าเพื่อนำไปใช้ในช่วงสงกรานต์
นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ชายแดนไทย-พม่า กล่าวว่า ช่วงปีงบประมาณ 2554 (ระหว่างเดือนตุลาคม 2553 - มีนาคม 2554) ด่านศุลกากรแม่สอด สามารถจับกุมการลักลอบส่งน้ำตาลทรายผิดกฎหมายไปฝั่งพม่า 8 ครั้ง จำนวน 135 กระสอบ น้ำหนัก 6,750 กก. มูลค่าของกลาง 148,500 บาท โดยจับกุมได้ตามท่าเรือขนส่งสินค้าริมแม่น้ำเมย ตลอดแนวชายแดน ซึ่งผู้กระทำผิดมีพฤติการณ์พยายามลักลอบนำน้ำตาลทรายออกนอกราชอาณาจักร จนชุดสืบสวน-สอบสวน ของด่านแม่สอดได้ลาดตระเวนและตรวจพบ โดยมีชื่อบริษัทที่ผลิตติดอยู่ที่กระสอบด้วย
ส่วนเรื่องน้ำมันปาล์ม ด่านศุลกากรแม่สอดมีสถิติสินค้าถ่ายลำ ช่วงปี 52-54 เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดย ในปี 2552 มีปริมาณส่งออก 59,852,402.57 กก.มูลค่า 1,673,083,948.72 บาท ในปี 2553 ปริมาณส่งออก 86,968,249.58 กก. มูลค่า 2,535,568,779.31 บาท และล่าสุดในปีงบประมาณ 2554 เพียง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณ 10-15% แล้ว