เมืองพ่อขุนฯ ได้ประธานหอใหม่ - ดึงคนเก่าช่วย-กระจายงาน

เชียงราย - หอการค้าเชียงรายได้ตัวประธานหอฯคนใหม่แล้ว พร้อมดึงทีมอาวุโสร่วมเป็นกุนซือให้คนรุ่นใหม่ ดันเมืองพ่อขุนฯ เตรียมพร้อมรับมือทุนจีนที่ถาโถมเข้ามาต่อเนื่อง

รายงานข่าวแจ้งว่า หอการค้าจังหวัดเชียงราย ได้จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี เพื่อเลือกตั้งประธานหอการค้าคนใหม่แทนนายวิรุณ คำภิโล ซึ่งหมดวาระลงหลังจากดำรงตำแหน่งมาได้ครบ 2 ปี ซึ่งผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายชวลิต สุธรรมวงศ์ รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย หลายสมัย เจ้าของบริษัทชวลิตกิจเกษตร จำกัด อ.เมือง ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานหอการค้า จ.เชียงราย คนใหม่ และได้มีการคัดสรรรองประธาน กรรมการฝ่ายต่างๆ เข้าร่วมคณะครบครัน โดยมีผู้ที่เป็นที่คุ้นเคยกันดีในแวดวงธุรกิจเข้าร่วมโดยเฉพาะนักธุรกิจชายแดน เช่น นายแสวง เครือวิวัฒนกุล เจ้าของโรงแรมวังคำ, นายบุญธรรม ทิพย์ประสงค์ ประธานหอการค้า อ.แม่สาย, นายประสาธน์ กิตตินา นักธุรกิจชายแดนด้าน อ.เชียงแสน ,นายธนิสร กระฎมพร ประธานชมรมพ่อค้าชายแดน อ.เชียงของ ฯลฯ

นายชวลิตกล่าวว่า หอฯ เชียงรายยุคใหม่จะเน้นนโยบายใน 2 ด้านหลักๆ คือ การปรับโครงสร้างโดยจะดึงอดีตประธานหอการค้าเข้าไปช่วยงานเหมือนเดิมในตำแหน่งประธานอาวุโส แทนการปล่อยให้หมดวาระออกไป แล้วให้คณะกรรมการชุดใหม่เข้ามาบริการงานตามลำพัง

นอกจากนี้ยังดึงคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมการบริหารให้มากขึ้น ซึ่งโชคดีที่คณะกรรมการชุดนี้มีคนหนุ่มรุ่นใหม่เคยทำงานมาแล้วหลายสมัย โดยคนหนุ่มเหล่านี้มีอายุราวๆ 30-40 ปี ซึ่งจะมาทำงานร่วมกับผู้ที่ทรงคุณวุฒิอื่นๆ เพื่อขับเคลื่อนภาคธุรกิจเชียงรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

นายชวลิตกล่าวอีกว่า อีกนโยบายคือจะเน้นการกระจายการบริหารไปยังรองประธานฝ่ายต่างๆ ซึ่งจะไปคัดสรรทีมทำงานของตัวเอง เช่น ฝ่ายการค้าชายแดน ฝ่ายพาณิชย์ ฝ่ายการท่องเที่ยว ฯลฯ แต่ละทีมจะเป็นผู้ที่มีความชำนาญในแต่ละธุรกิจของตัวเองอยู่แล้วเพียงแต่นำองค์ความรู้และการค้นคว้าข้อมูลมารวมกันเพื่อเป็นฐานข้อมูลเชิงลึก สำหรับการให้บริการสมาชิกและภาคธุรกิจอื่นๆ รวมทั้งขับเคลื่อนตามแนวทางของหอการค้าต่อไป ซึ่งก็จะทำให้พวกเราขับเคลื่อนกันไปอย่างเป็นองคาพยพต่อไป

ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงรายคนใหม่กล่าวด้วยว่า เป้าหมายคือต้องการให้หอการค้าเป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ จ.เชียงราย อย่างแท้จริง และสามารถรองรับการถาโถมเข้ามาของเศรษฐกิจจากประเทศจีน โดยเฉพาะถนนอาร์สามเอและสะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อม อ.เชียงของ กับแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่จะแล้วเสร็จในปี 2555 ซึ่งตนคาดหวังว่าทุกทีมจะแสดงฝีมือกันอย่างเต็มที่

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะเดียวกัน นางเกศสุดา สังขกร ประธานชมรมชิปปิ้ง อ.เชียงแสน ได้เสนอในที่ประชุมให้ร่วมแก้ไขปัญหากรณีการค้าชายแดนทางเรือในแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน โดยระบุว่า ปัจจุบันการท่าเรือแห่งประเทศไทยและกรมเจ้าท่า เข้มงวดให้เรือสินค้าในแม่น้ำโขงซึ่งส่วนใหญ่ขนส่งสินค้าไทย-จีน ให้ไปใช้บริการที่ท่าเรือแห่งที่ 1 ซึ่งสร้างติดเมืองโบราณเชียงแสนในเขตเทศบาล ต.เวียงเชียงแสน และห้ามเรือแล่นหลังเวลา 18.00 น.แต่เนื่องจากท่าเรือคับแคบเรือเข้าเทียบท่าได้น้อย ทำให้เรือทะลักไปใช้บริเวณริมฝั่งหน้าวัดปงสนุก แต่ก็ถูกหน่วยงานต่างๆ ที่ถือกฎหมายแตกต่างกันตรวจสอบอย่างเข้มงวด

นางเกศสุดาบอกอีกว่า ตัวอย่างเช่น เทศบาล ต.เวียงเชียงแสน ระบุว่าการนำเรือเข้าเทียบท่าหน้าวัดทำให้การจราจรแออัด เพราะต้องมีรถขนส่งสินค้าไปขนสินค้าขึ้นลง การออกจากท่าเรือด้วยความจำเป็นเพื่อไปหาที่เทียบท่าใหม่ในเวลา 18.15 น.ก็ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เข้าตรวจสอบจับกุม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาต่างๆ มากมาย

ซึ่งนายชวลิตได้มอบนโยบายให้กรรมการที่ทำงานที่ชายแดน ให้หาจังหวะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการระดับอำเภอเพื่อชี้แจงปัญหาและหาวิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน หากไม่ได้ผลให้ประสานกับหอการค้าเพื่อทำหนังสือไปยังทางอำเภอเพื่อขอเข้าไปมีส่วนร่วมตามลำดับ