xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านได้รับผลกระทบเขื่อนน้ำอูนจี้รัฐช่วยเหลือที่ดินทำกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สกลนคร-กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องที่ดินทำกินเขื่อนน้ำอูน ขับรถอีแต๋นเกือบร้อยคันปักหลักชุมนุมหน้าที่ว่าการฯ เรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบสิทธิ์ที่ดินทำกินและขอให้ช่วยเหลือชดเชยผลกระทบจากเขื่อนน้ำอูนเท่าเทียมกับผู้ได้รับผลกระทบเขื่อนอื่น

วันนี้ (9 มี.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องสิทธิ์ที่ดินทำกินเขื่อนน้ำอูน จากอำเภอกุดบาก นิคมน้ำอูน วาริชภูมิ พังโคนและอำเภอพรรณนานิคม ได้ใช้รถอีแต๋น จำนวน 40 คัน เดินทางจากเขื่อนน้ำอูน อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นราษฎรที่เดือดร้อนจากผลกระทบจากการสร้างเขื่อนน้ำอูน เมื่อปี 2506 จำนวนกว่า 100 ราย นำโดย นายวิเชียร โคตรอินทร์ขาว อายุ 58 ปี ราษฎรบ้านกลาง ม.8 ต.กุดไห อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร

โดยปักหลักชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อพักค้างแรมกดดันให้ทางจังหวัดดำเนินการตามข้อเรียกร้องคือ 1.แก้ไขการประกาศเขตชลประทานทับที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกินที่น้ำไม่ท่วมของราษฎร 2.การสำรวจตรวจสอบให้การช่วยเหลือของกรมชลประทานไม่ครอบคลุมและทั่วถึง 3.การพิจารณาให้การช่วยเหลือราษฎรที่เป็นสมาชิกนิคมน้ำอูน ไม่ครอบคลุมและทั่วถึง 4.การพิจารณาให้การช่วยเหลือราษฎร ที่กรมชลประธานสำรวจตรวจพบและให้การช่วยเหลือมาแล้ว ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับกรณีเขื่อนอื่นๆ

นายวิเชียร โคตรอินทร์ขาว แกนนำผู้ชุมนุมกล่าวว่าต้องการให้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาทางช่วยเหลือราษฎรกลุ่มที่ตกสำรวจและพื้นที่ที่ประกาศทับที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินที่น้ำไม่ท่วมและกลุ่มสมาชิกนิคมนอกเหนือจากจำนวน 1,115 ราย 2. ขอให้พิจารณาทบทวน มติ ครม.ปี 2547 ให้การช่วยเหลือใหม่ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับเขื่อนอื่นๆ3. ขอทราบความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบรายชื่อกลุ่มสมาชิก (3,351) กลุ่มสมาชิกนิคมน้ำอูนและการตรวจสอบราคาประเมินราคาซื้อขายที่ดินในพื้นที่น้ำอูน และ4.ขอให้มีความชัดเจนกรณีราคาค่าชดเชยที่ดินกับการพิจารณาช่วยเหลือราษฎร

จากการประชุมปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างนายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร กับแกนนำผู้ชุมนุมได้ข้อสรุปว่า ให้ทำการสำรวจรายชื่อราษฎรที่ตกหล่นทั้ง 5 อำเภอ จากนั้นจะได้นำรายชื่อราษฎรที่ตกหล่นทั้ง 5 อำเภอ เข้าที่ประชุมในวันที่ 31 มีนาคม 54 เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง และจะประกาศรายชื่อที่ตกหล่นจริงเพื่อเข้ารับสิทธิ์ ณ หน้าที่ว่าการอำเภอทั้ง 5 อำเภอ

จากนั้นให้ราษฎรที่มีรายชื่อได้เตรียมเอกสารตามความเป็นจริง เข้ารับการช่วยเหลือต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น