xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานไทยฉะเละ “รัฐบาลมาร์ค” ช่วยออกจากลิเบียช้า คนขายแรงตกค้างอีกเพียบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กาฬสินธุ์- แรงงานไทยเมืองน้ำดำที่ทำงานในลิเบีย ฉะเละ “รัฐบาลมาร์ค” ยื่นมือช่วยเหลือล่าช้า ตกค้างอีกเพียบ แฉนาทีขุมนรกด่านออกนอกประเทศลิเบีย ทหารปล้นสะดมเงินสด โน้ตบุ๊ก โทรศัทพ์มือถือ ถูกกวาดเรียบ วอนรัฐบาลช่วยจ่ายชดเชยเงินกู้คืน ชี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้ ธ.ก.ส.

นายทองแดง ชราแสง อายุ 41 ปี เลขที่ 5 หมู่ที่ 2 บ้านยอดแกง ต.ยอดแกง อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ หนึ่งในแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศลิเบีย ที่เพิ่งจะเดินทางกลับมาสู่บ้านเกิด จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2554 ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเร่งหาทางช่วยเหลือคนงานไทยในประเทศลิเบีย และให้เร่งเข้าทำการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้เงินกู้คงค้างจากปัญหาการกู้ยืมก่อนไปทำงานในประเทศลิเบีย

นายทองแดง ชราแสง แรงงานไทยในลิเบีย กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2552 โดยการจัดหางานจากบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่งด้วยค่าใช้จ่ายจำนวน 150,000 บาท ซึ่งมีหน้าที่ทำงานก่อสร้างในโครงการทหารจากนั้นก็ไปก่อสร้างแม่น้ำเทียม แต่ภายหลังจากที่มีการก่อสงครามภายในประเทศ ความเป็นอยู่ของกลุ่มแรงงานจากหลายเชื้อชาติก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีการใช้อาวุธเข้ายิงประชาชน ต่อมาเมื่อมีการช่วยเหลือในส่วนของตนได้เดินทางผ่านประเทศตูนิเซียและนอนที่นั่น 3 คืน ก่อนที่จะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2554

นายทองแดง ระบุอีกว่า ตนมีความรู้สึกว่าในการเข้าช่วยเหลือของรัฐบาลในครั้งนี้ เป็นไปอย่างล่าช้าและรู้สึกผิดหวัง เพราะเท่าที่รู้มาในช่วงสมัย “ทักษิณ” เป็นนายกรัฐมนตรี เกิดปัญหาที่ประเทศอิสราเอล มีแรงงานไทยมากถึง 4 แสนคน ก็สามารถให้ความช่วยเหลือได้เพียงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ แต่มาในครั้งนี้ แรงงานที่มีอยู่เพียง 2 หมื่นคน กลับให้ความช่วยเหลือล่าช้า ก็ไม่เข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้ทำอะไรอยู่ เพราะเหตุปัญหาให้ความช่วยเหลือล่าช้าดังกล่าว ส่งผลให้แรงงานถูกกลุ่มทหารลิเบียติดอาวุธ เข้าปล้นสะดมเงินทอง ข้าวของเครื่องใช้

นายทองแดง เล่าต่อว่า นาทีระทึกในการออกจากประเทศลิเบีย จะไปอยู่ที่ด่านพรมแดนเข้าประเทศตูนิเซีย เพราะมีทหารติดอาวุธเข้าไปทำร้ายแล้วทำการค้นกระเป๋า ปล้นเอาทรัพย์สินมีค่าไปทุกชิ้นก่อนจะให้ออกนอกประเทศ จะเหลือติดตัวมีเพียงกระเป๋าเสื้อผ้า ในส่วนของตนถูกปล้นทั้งโน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป เงินสดที่เป็นเงินดอลลาร์ จะถูกปล้นไปจนหมด ก็รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนแรงงานไทยที่ยังตกค้างอยู่

“สิ่งที่ผมต้องการขณะนี้ คือ ให้รัฐบาลยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างชัดเจน เพราะเชื่อว่าแรงงานไทยทุกคนจะกู้ยืมเงินไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะตนเองได้นำโฉนดที่ดินจำนวน 36 ไร่ไปกู้เงินกับ ธนาคาร ธ.ก.ส.เป็นเงิน 150,000 บาท ยังไม่ทันที่จะจ่ายต้น เพราะส่งได้แต่ดอกเบี้ยวก็ต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้” นายทองแดง กล่าวและเล่าต่อว่า

ภายหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือมาแล้ว ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาประสานหรือติดต่อเพื่อหาวิธีการช่วยเหลือเลย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) ตนจะเดินทางไปที่ แรงงานจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อทำหนังสือร้องขอความช่วยเหลือต่อไป เพราะหากรัฐบาลไม่ช่วยเหลือ ก็จะทำให้ครอบครัวของตนที่มีลูก 2 คน ต้องลำบากแน่ๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น