บุรีรัมย์ - หนึ่งในแรงงานไทยที่ได้รับการช่วยเหลืออพยพเดินทางกลับจากประเทศลิเบีย ได้กลับถึงบ้านเกิด จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางความดีใจของครอบครัวและญาติ พร้อมวอนช่วยเหลือครอบครัวแบกภาระหนี้สิน ยันหากเหตุประท้วงสงบจะกลับไปทำงานอีก ชี้รัฐบาลล่าช้าจี้เร่งช่วยเหลือเพื่อนแรงงานตกค้างลิเบีย ถูกปล้น-เสี่ยงอันตราย-ไม่มีอาหารกิน
วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรอบ หอมนิยม อายุ 45 ปี หนึ่งในแรงงานไทยชุดแรกที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการในการอพยพเดินทางกลับจากประเทศลิเบียที่กำลังเกิดเหตุรุนแรงจากการประท้วง ได้เดินทางกลับถึงบ้านเกิดที่บ้านเลขที่ 314 ม.1 หนองน้ำขุ่น ต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ แล้ว ท่ามกลางความดีใจของครอบครัวและญาติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวไม่สามารถติดต่อ นายรอบ หอมนิยม ซึ่งทำงานอยู่ในลิเบีย ช่วงที่เกิดเหตุประท้วงได้ สร้างความกังวลใจและเป็นห่วงอย่างมาก เพราะเกรงจะได้รับอันตราย
ทั้งนี้ นายรอบ หอมนิยม ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศลิเบีย ได้ประมาณ 2 ปีเศษ ตำแหน่งคนงานก่อสร้างที่ สนามบินเบดีน่าแอร์พอร์ต เมืองเบงกาซี ได้ค่าจ้างเดือนละ 24,000 บาท ซึ่งนายรอบ ยืนยันว่า หากเหตุการณ์ประท้วงที่ประเทศลิเบีย สงบลง จะกลับไปทำงานอีก แม้จะหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตาม เพราะครอบครัวยังมีภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงินทั้งในและนอกระบบเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานที่ประเทศลิเบียกว่า 300,000 บาท
อีกทั้งยังต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวที่กำลังเล่าเรียน พร้อมทั้งอยากมีบ้านหลังใหม่ เพราะบ้านหลังเดิมซึ่งเป็นบ้านไม้ มีสภาพเก่า ทรุดโทรม และคับแคบ นอกจากนี้ยังอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือในระหว่างที่เดินทางกลับมาอยู่บ้านแล้วไม่มีงานทำด้วย
นายรอบ หอมนิยม กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ทางกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งยื่นมือเข้าไปดูแลช่วยเหลือเพื่อนแรงงาน ที่กำลังประสบปัญหาจากเหตุการณ์ประท้วงรุนแรง ทั้งในประเทศลิเบีย และประเทศอียิปต์ เพราะที่ผ่านมาจากเหตุการณ์ประท้วงและกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปก่อเหตุปล้นสะดมเสบียงอาหาร ข้าวของแรงงาน และการจัดหาที่พักปลอดภัย รวมไปถึงการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ในต่างประเทศที่มีปัญหายังมีความล่าช้า ทำให้แรงงานต้องตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายและเดือดร้อนเรื่องอาหารการกิน
ด้าน นางละไม หอมนิยม อายุ 43 ปี ภรรยา นายรอบ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุประท้วงในลิเบียและไม่สามารถติดต่อสามีได้ รู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงสามีมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเกรงสามีจะได้รับอันตราย และตนไม่อยากให้สามีเดินทางกลับไปทำงานอีก แต่สามีก็ยังยืนยันว่า อยากจะกลับไปทำงานอีก เพราะยังมีภาระและหนี้สินอีกหลายแสนบาท