พะเยา - กลุ่มผู้ประกอบการค้าสุกร-โค-กระบือ ในพะเยา เข้าร้องผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา หลังถูกผู้เช่าโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งเป็นผู้ประมูลได้จากเทศบาลเมืองพะเยา เรียกเก็บค่าชำแหละแพง อีกทั้งขั้นตอนการชำแหละไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ประสบความเดือดร้อนต้นทุนราคาหมูแพง และไม่อยากผลักภาระให้กับประชาชน
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าสุกร-โค-กระบือ ใน จ.พะเยา ซึ่งนำโดย นายสมพงษ์ เก่งวิทย์กรรม อายุ 54 ปี ม.3 บ้านสะพานงาน ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จำนวนกว่า 50 คน พร้อมด้วย นางสาวอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.พะเยา ได้พากันเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา เพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
โดยกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า อ้างว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการที่ผู้เช่าโรงฆ่าสัตว์รายใหม่ของเทศบาลเมืองพะเยา เรียกเก็บค่าชำแหละ สุกร-โค-กระบือ แพงมาก อีกทั้งการชำแหละไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีคุณภาพ และมีการข่มขู่หากไปชำแหละที่อื่นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยล่าสุดมีการแจ้งความดำเนินคดีพ่อค้าแล้ว 2 ราย โดยนัดขึ้นศาลวันนี้
นายสมพงษ์ ตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการค้าสุกร-โค-กระบือ จ.พะเยา กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ค้า สุกร-โค-กระบือ ใน จ.พะเยา เดินทางมาในวันนี้ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการที่นายพงษ์สิษฐุ์ สินคุณาธาร ผู้เช่าโรงฆ่าสัตว์ที่เป็นคู่สัญญากับทางเทศบาลเมือง ซึ่งได้เข้ามาดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา
โดยมิได้มีการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ และได้มีการเรียกเก็บค่าชำแหละสุกร โคและกระบือแบบไม่เป็นธรรม และแพงเกินจริง คือ ค่าชำแหละสุกรเรียกเก็บตัวละ 300 บาท ภายหลังลดลงเหลือ 200 บาท ส่วน โค-กระบือ ตัวละ 400 บาท โดยในอดีตเรียกเก็บเพียงตัวละ 140 บาท เท่ากันหมด แต่ทางพ่อค้าแม่ค้า ต้องจ้างแรงงานเข้าไปชำแหละเอง
แต่ปัจจุบันผู้เช่าได้จ้างแรงงานมาชำแหละให้ พร้อมทั้งขึ้นราคาค่าชำแหละแพง ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการค้า สุกร-โค-กระบือ จ.พะเยา ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น แต่ไม่สามารถขึ้นราคาจำหน่ายได้ เนื่องจากไม่อยากผลักภาระตรงนี้ไปให้กับประชาชน เพราะจะกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง เนื่องจากเนื้อหมู เนื้อวัว และเนื้อกระบือ นั้น จะเป็นส่วนประกอบของอาหารของคนเหนือแทบทุกอย่าง
โดยเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ก็ได้เข้าไปร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกเทศมนตรีเมืองพะเยา แต่กลับไม่ได้ผล จากนั้นได้ขอพบกับนายพงษ์สิษธุ์ (ผู้เช่า) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ณ สภ.เมืองพะเยา เพื่อเจรจาหาข้อยุติ แต่กลับได้รับการปฏิเสธ และเมื่อทางกลุ่มผู้ค้าขออนุญาตกับทางเทศบาลไปชำแหละเอง ก็กลับถูกจับดำเนินคดีไปแล้ว 2 ราย คือ นายปรเมศ เทพทองคำ และ นายกระจ่าง หาญหทัยพรรณ
นอกจากนี้ ผู้เช่ายังมีพฤติกรรมขุ่มขู่ด้วยการพกปืนตลอดเวลาเมื่อกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามาติดต่อขอนำสัตว์เข้ามาชำแหละที่โรงฆ่าสัตว์ดังกล่าว ดังนั้น ทางกลุ่มผู้ประกอบการค้าสุกร-โค-กระบือ จึงได้เข้ามาเรียกร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพื่อขอให้ทางเทศบาลเมืองพะเยายกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าว เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะขาดรายได้ เนื่องจากขณะนี้จำเป็นต้องปิดร้านค้า และปิดมาหลายวันแล้ว
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาได้มอบหมายให้ นายชนะ แพ่งพิบูลย์ ปลัดจังหวัดพะเยาพร้อม ด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (ด้านกฎหมาย) เข้ารับเรื่องพร้อมทั้งระบุว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะต้องเชิญทางเทศบาลเมืองมาให้ข้อมูลและหากเป็นจริงทางเทศบาลจะต้องพิจารณาแก้ไขปัญหาจะด้วยการยกเลิกสัญญาหรือเรียกผู้เช่ามาเจรจาเพื่อหาข้อยุติ
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ หากผลเป็นประการใดทางจังหวัดจะแจ้งให้กลุ่มผู้ประกอบการทราบทันที จากนั้นกลุ่มผู้ประกอบการค้าสุกร-โค-กระบือ ได้แยกย้ายกันกลับ