สตม.จับแก๊งค้าแรงงานพม่า ส่งนายจ้างสวนยาง-ปาล์มภาคใต้

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามรวบแก๊งค้ามนุษย์ ลักลอบนำแรงงานชาวพม่าเข้าเมือง แล้วนำไปส่งต่อให้นายจ้างตามสวนยางพารา หรือสวนปาล์มทางภาคใต้ จนท.ตามสะกดรอยขณะผู้ต้องหานำแรงงานไปส่งขึ้นรถเตรียมส่งต่อ ก่อนนำกำลังเข้าตรวจสอบภายบ้านพักใน จ.สมุทรสาคร พบแรงงานพม่าถูกขังอีก 50 คน สารภาพได้ค่าจ้างตอบแทนส่งแรงงานคนละ 1 พันบาท ขณะที่แรงงานพม่าต้องเสียค่านายหน้าข้ามมาไทยคนละ 1.5 หมื่น

วันนี้ (25 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม. พล.ต.ต.มล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.อธิศวิส กมลรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายชัยโย ศรีสุข อายุ 39 ปี นายปราโมทย์ นวลละออง อายุ 38 ปี และนายนคร นิลตีบ อายุ 38 ปี พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า หมายทะเบียน กค-8584 กาญจนบุรี รถเทรลเลอร์ 18 ล้อ ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน 70-6634 สงขลา และอาวุธปืนปืนพกสั้นยี่ห้อสมิท แอนด์ เวสสัน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 20 นัด

พล.ต.ท.วิบูลย์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม.สืบทราบว่ามีขบวนการค้ามนุษย์นำแรงงานต่างด้าวชาวพม่ามากักขังไว้ที่บ้านเลขที่ 67/302 หมู่ที่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อเตรียมว่าจ้างคนขับรถเทรลเลอร์ให้ขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าไปส่งให้นายจ้างที่ต้องการใช้แรงงานตามสวนยางพารา หรือสวนปาล์มทางภาคใต้ จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่บ้านดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็พบนายชัยโย ขับรถเก๋งคันดังกล่าวขนอาหารจำนวนหลายสิบกล่องเข้ามาที่บ้าน ก่อนจะขับรถออกไปโดยล็อกประตูบ้านจากด้านนอกเอาไว้

พล.ต.ท.วิบูลย์ กล่าวต่อว่า ต่อมานายชัยโย ได้ย้อนกลับมาที่บ้านอีกครั้ง ก่อนจะพาแรงงานต่างด้าว ประมาณ 7-8 คน ขึ้นรถแล้วขับออกจากบ้านไป เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยตามไปจนถึงบริเวณริมถนนพระรามที่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ก่อนจะพาแรงงานต่างด้าวทยอยขึ้นรถเทรลเลอร์คันดังกล่าว ที่มีนายปราโมทย์กับนายนคร เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที ก่อนจะนำกำลังกลับเข้ามาตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว ปรากฏว่ายังมีแรงงานต่างด้าวถูกขังอยู่ภายในบ้านอีก 50 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งหมดมาสอบปากคำ

จากการสอบสวน นายชัยโย ให้การรับสารภาพว่า ไปรับแรงงานต่างด้าวชาวพม่ามาจากชายแดนภาคเหนือ จากนั้นก็จะนำมาขังไว้ที่บ้านเพื่อรอส่งให้กับลูกค้าที่เป็นนายจ้างสวนยางพาราหรือสวนปาล์มทางภาคใต้ และที่ประเทศมาเลเซีย โดยราคาขึ้นอยู่กับจำนวนแรงงานต่างด้าวที่นายจ้างคนนั้นสั่งมา จากนั้นตนก็จะมาจ้างนายปราโมทย์ กับ นายนคร สองพนักงานขับรถบริษัท เอส วี ฟอร์เวิร์ดดิ้ง แอนด์ ทรานสปอร์ต จำกัด แอบขนแรงงานต่างด้าวไปส่งให้นายจ้างที่ภาคใต้ โดยจะให้ค่าตอบแทนคนละ 1,000 บาท ส่วนสาเหตุที่ต้องพกปืนไว้ด้วยนั้น ก็เพราะที่บ้านตนขังแรงงานต่างด้าวเอาไว้จำนวนมาก ทำให้ต้องพกปืนเอาไว้ข่มขู่ เพื่อไม่ให้แรงงานพวกนี้ออกไปนอกบ้าน ด้านแรงงานชาวพม่า ให้การว่า จะต้องเสียเงินค่านายหน้าที่ฝั่งพม่าก่อนคนละ 15,000 บาท ก่อนจะลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ให้ที่พักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม, กักขังหน่วยเหนี่ยว และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กับ นายชัยโย ส่วน นายปราโมทย์ กับนายนคร นั้น แจ้งข้อหาร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป