ตราด - ฝนตกหนักที่ตราด แต่น้ำฝนได้น้อย เกษตรกรห้วงน้ำขาว ร้องผลผลิตเสียหายเกือบ 70% อบต.จี้ภาครัฐ อบจ.เร่งแก้ปัญหาถาวร หลังเสียรายได้ 70 ล้าน/ปี
จากการที่ได้เกิดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักใน 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้พื้นที่การทำเกษตรกรรมในหลายตำบล โดยเฉพาะ ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด ที่เป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่มีคุณภาพและเป็นสวนผลไม้ที่ออกผลผลิตได้ก่อนตำบลอื่นๆ ใน จ.ตราด ทำให้เกษตรกรไม่ต้องสูบน้ำรดต้นไม้เหมือนปกติ ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำในสระน้ำ 2 หมู่บ้านมีปริมาณเพิ่มขึ้น
ที่บ้านหมู่ 2 บ้านคลองหลอด ต.ห้วยน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด นายชูวิทย์ สุขสวัสดิ์ รองนายกอบต.ห้วงน้ำขาว เดินทางไปที่สระเก็บน้ำของตำบลเพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นหลังเกิดฝนตกเป็นจำนวนมากเมื่อ 2-3 วันก่อน และพบว่ามีระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นไม่สามารถทำให้ ต.ห้วงน้ำขาว พ้นจากสภาพขาดแคลนน้ำได้
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนที่ได้ก็แค่ทำให้ อบต.ไม่ต้องจ่ายน้ำเหมือนตามปกติเท่านั้น เกษตรกรก็ไม่ต้องรดน้ำผลไม้อย่างน้อยก็ 2 วัน หลังจากนั้น ก็ต้องใช้น้ำรดตามปกติ หากเดือนนี้ฝนยังไม่ตกลงมาอีก ภัยแล้งจะรุนแรงขึ้น ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นเหมือนปีที่ผ่านมา เพราะผลไม้เสียหายสูงถึง 70% มูลค่าผลผลิตของผลไม้ใน ต.ห้วงน้ำขาว ซึ่งจะออกผลผลิตก่อนตำบลอื่นๆ ทำให้มีราคาสูงเช่น เงาะ จะมีราคา 70-80 บาท/กก.
โดยจะออกในช่วงต้นเดือนเมษายน แต่ขาดแคลนน้ำ คาดว่า ในปีนี้ผลผลิตจะได้รับความเสียหายเหมือนปีที่ผ่านมาที่มูลค่าของผลไม้ของ ต.ห้วงน้ำขาวมีมากกว่า 100 ล้านบาท แต่เกิดภาวะภัยแล้งทำให้ผลผลิตเสียหายไปกว่า 70 ล้านบาท
รองนายก อบต.ห้วงน้ำขาว บอกว่า การแก้ปัญหาระยะยาว จะต้องต่อท่อน้ำจาก ต.หนองคันทรงมาเติมที่สระจะทำให้มีปริมาณน้ำเพียงพอทั้งปี ที่ผ่านมา อบต.ห้วงน้ำขาวมีงบพัฒนาเพียงปีละ 1.5 ล้าน - 2 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งทางจังหวัดตราด และทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราดควรจะนำงบประมาณมาแก้ปัญหาให้กับตำบลห้วงน้ำขาวอย่างถาวร โดยเฉพาะการต่อท่อดูดน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองสระโบสถ์ ในตำบลห้วงน้ำขาวมาเก็บไว้ในสระน้ำสาธารณะของตำบลที่มีอยู่ในหมู่บ้าน 2-3 แห่ง ก็จะสามารถแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้
นายอ้วน บุญจันทร์ อายุ 53 ปีเกษตรกรชาวสวน บ้านคันนา ต.ห้วงน้ำขาว กล่าวว่า ปริมาณน้ำแค่นี้ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกรทั้งหมู่บ้าน จำเป็นต้องมีการจัดสรรให้ ซึ่งปีนี้ ภูมิอากาศแปรปรวน ฝนตกไม่ตรงต่อเวลา ทำให้ผลไม้ออกผลช้า โดยเฉพาะมังคุดที่ออกดอกช้ากว่าทุกปี
ส่วน นายอำนวย เกาะลอย อายุ 71 ปี ชาวสวนอีกราย ก็บอกว่า ฝนที่ตกลงมาวันนี้ถือว่าตกมากที่สุดในรอบปี 2554 แล้ว แต่ได้ปริมาณน้ำเพียงแค่นี้ ใช้เพียงไม่กี่วันก็หมดแล้ว ซึ่งผลผลิตก็ได้รับความเสียหายมาก หากเป็นเช่นนี้ จะหันไปปลูกยางพาราแทนแล้ว