กาญจนบุรี - นอภ.เมืองกาญจน์ เผยความคืบหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึกกาญจนบุรี-ทวาย เผยหากโครงการนี้เสร็จประชาชนในพื้นที่จะได้ประโยชน์มหาศาล รวมทั้งลูกหลานจะไม่ตกงานในอนาคต เชื่อจะมีบรรดานักธุรกิจนำเม็ดเงินจำนวนมากมาลงทุนในพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า หรือพื้นที่ใกล้เคียง
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (28 ก.พ.54) ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายบุญญะพัฒน์ จันทรอุไร นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับโครงการท่าเรือน้ำลึกกาญจนบุรี-ทวายว่า หลังจากที่บริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ( มหาชน) และรัฐบาลแห่งสหภาพพม่า ได้ทำข้อตกลงเพื่อก่อสร้างโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย-สหภาพพม่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2553 ที่ผ่านมา
โดยมีการกำหนดโครงการแล้วเสร็จภายในวันที่ 2 พ.ย.2563 รวมระยะเวลา 10 ปี ถือว่าเป็นโครงการระยะยาว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 และมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พุทธศักราช 2522 ประกาศเปิดจุดผ่านแดนชั่วคราว เพื่ออำนวยความสะดวกในการก่อสร้างโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย และเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงระหว่างประเทศไทย-สหภาพพม่า ที่บริเวณบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตรงข้ามบ้านแม่ธะมี่ สหภาพพม่า
โดยอนุญาตให้บุคคล เจ้าหน้าที่ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ รวมทั้งพาหนะที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ของบริษัท อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ( มหาชน ) ผ่านเข้า-ออก ให้เป็นไปตามตามแนวทางที่จังหวัดกาญจนบุรีกำหนด แต่ไม่รวมถึงการสัญจรไป-มา ของบุคคลหรือพาหนะอื่นที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างดังกล่าว
โดยรายละเอียดของโครงการดังกล่าวมีมูลค่ามหาศาลมากกว่า 4 แสนล้านบาท ภายในโครงการจะมีการก่อสร้างประกอบด้วย การก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก โรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงกลั่น โรงถลุงเหล็กต้นน้ำ รวมทั้งถนน และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งโครงการก่อสร้างต่างๆเหล่านี้จะทำให้ชาวกาญจนบุรี ที่ยังไม่มีงานทำ สามารถเข้าไปสมัครเป็นคนงานก่อสร้างได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ จะมีการเปิดตลาดแรงงานคน ที่มีความสามารถด้านช่างฝีมือ โฟร์แมน วิศวกร เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 10 ปีของการก่อสร้างโครงการจะมีแรงงานไทยมีงานทำมากกว่า 10,000 คนอย่างแน่นอน
ส่วนประชาชนที่อยู่โดยรอบโดยเฉพาะชาวตำบลบ้านเก่า ก็จะมีรายได้เสริมเข้ามาเลี้ยงดูครอบครัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอาชีพทางด้านการเกษตร เลี้ยงสัตว์ หรือสามารถลงทุนเปิดร้านค้าขายของโชว์ห่วย จำพวก ข้าวสาร อาหารแห้ง หรือจะเปิดปั้มน้ำมันหลอด ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่คนงานกว่า 1 หมื่นคนต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และต่อไปในอนาคต
หลังจากโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ ชาวเมืองกาญจนบุรีก็จะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล โดยเฉพาะหลังจากปี 2554 นี้เป็นต้นไปเชื่อว่าจะมีบรรดานักธุรกิจนำเม็ดเงินจำนวนมากมาลงทุนในพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า หรือพื้นที่ใกล้เคียง เช่น สร้างรีสอร์ต โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้า หรือร้านโชว์ห่วยขนาดใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกหลานชาวเมืองกาญจนบุรีได้มีงานทำอย่างยั่งยืน ไม่ต้องดิ้นรนไปหางานทำใน กทม.อีกต่อไป