ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ญาติแรงงานไทยใน “ลิเบีย” แห่ร้องจัดหางานโคราชช่วยเหลือกลับประเทศ เกรงไม่ปลอดภัย ด้านจัดหางานจังหวัด แจงญาติรัฐไม่นิ่งนอนใจ พยายามช่วยเหลือเต็มที่ หากญาติใครอยู่จุดใดขอให้แจ้งเพื่อประสานการช่วยเหลือ ยันแรงงานไทยทุกคนยังปลอดภัยดี เผย ชาวโคราชทำงานในลิเบียกว่า 2,300 คน ล่าสุด ญาติยื่นจำนงขอให้ช่วยเหลือแล้วกว่า 500 คน ญาติเผยสถานการณ์ลิเบียล่าสุดเลวร้ายมาก แคมป์แรงงานไทยกว่า 2,000 คน ถูกปล้นอาหารเกลี้ยง ทุกคนไม่มีอะไรกิน
ช่วงบ่ายวันนี้ (24 ก.พ.) ที่ชั้น 2 สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ญาติของแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ ลิเบียจำนวนกว่า 200 คนได้เดินทางเข้ายื่นความจำนงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งให้ช่วยเหลือญาติแรงงานไทยในประเทศลิเบีย
โดย นางเพ็ญจันทร์ บุญฮก ผู้ช่วยจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ได้ชี้แจงต่อญาติของแรงงานไทยว่า ขณะนี้ทางรัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบียอย่างเต็มที่ โดยกระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่ามีแรงงานไทยในประเทศลิเบียขณะนี้ 23,000 คน ซึ่งแรงงานส่วนใหญ่ยังอยู่ในจุดปลอดภัยและไม่มีใครได้รับอันตรายบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบแต่อย่างใด ขอให้ญาติติดตามข่าวจากทางกระทรวงอย่าเชื่อข่าวลือ
ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ประสานให้แรงงานไทยในลิเบียนำหนังสือเดินทางและของมีค่าติดตัวไว้ตลอดเวลา ส่วนแนวทางการอพยพที่เตรียมไว้มี 3 ทาง คือ อพยพทางบก ออกทางชายแดนที่ติดกับประเทศตูนีเซีย ส่วนทางน้ำ ได้ติดต่อเรือเช่าเหมาลำเครื่องบิน ซึ่งได้ประสานกับทางการของประเทศอิตาลีและอียิปต์ไว้แล้ว หากมีเหตุการณ์คับขัน สามารถเข้าช่วยเหลือได้ภายใน 1-2 ชั่วโมง
นางเพ็ญจันทร์ กล่าวต่อ ว่า แรงงานชาว จ.นครราชสีมา ที่เดินทางไปทำงานในประเทศลิเบียมีกว่า 2,300 ราย ส่วนใหญ่ไปทำงานก่อสร้าง หลังเกิดเหตุความรุนแรงในประเทศลิเบีย ได้มีญาติของแรงงานไทยมาติดต่อยื่นความจำนงให้ช่วยเหลือแรงงานไทยกลับประเทศแล้วจำนวนกว่า 500 ราย ซึ่งทางจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ให้กรอกรายละเอียดต่างๆ ไว้ในเอกสาร และหากติดต่อกับแรงงานไทยในลิเบียได้ขอให้แรงงานไทยที่นั่นติดต่อกับเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไทยที่อยู่ในประเทศลิเบียโดยด่วน ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่เจ้าหน้าที่แจกให้แก่ญาติทุกคนไปแล้ว
“ปัญหาใหญ่ในขณะนี้ คือ ญาติไม่สามารถติดต่อกับแรงงานไทยในลิเบียได้ เนื่องจากสัญญาณโทรศัพท์ในลิเบียถูกตัดขาด จะโทร.ได้ในบางครั้งเท่านั้น ส่วนใหญ่ที่ติดต่อได้คือ แรงงานไทยที่อยู่ในลิเบียเป็นผู้ติดต่อกลับมาหาญาติ ทางเจ้าหน้าที่เองพยายามเก็บข้อมูลจากญาติเพื่อจะได้ทราบจุดที่แรงงานไทยอยู่ และแจ้งเจ้าหน้าที่สถานกงสุลไทยที่อยู่ในลิเบียเข้าช่วยเหลือแรงงานไทยเพราะขณะนี้มีแรงงานไทยกระจายกันอยู่หลายจุด ฉะนั้นจึงฝากญาติว่าขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง” นางเพ็ญจันทร์ กล่าว
ด้าน นางประนอม งันเกาะ อายุ 28 ปี และ ด.ช.จตุพร คงพะเนา อายุ 2 ขวบครึ่ง ภรรยาและลูกของ นายทวีชัย คงพะเนา อายุ 33 ปี แรงงานไทยในประเทศลิเบีย เปิดเผยว่า นายทวีชัย สามีได้เดินทางไปทำงานเป็นช่างปูนที่ประเทศลิเบียได้กว่า 1 ปีแล้ว ล่าสุด สามีโทรศัพท์ติดต่อมาเมื่อ 3 วันก่อน บอกว่า เหตุการณ์ที่นั่นวุ่นวาย มีเสียงระเบิดดังตลอดเวลา และมีระเบิดมาลงข้างแคมป์คนงานที่อยู่ติดกัน ซึ่งคนงานไทยได้อพยพมาอยู่ในแคมป์เดียวกันประมาณ 1,200 คน ทุกคนยังปลอดภัยดี แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ
“จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อกับสามีได้อีก อยากวิงวอนให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือให้สามีกลับประเทศเพื่อความปลอดภัย หนี้สินที่เหลืออยู่อีก 40,000 บาท คิดว่า หางานทำในประเทศไทยมาใช้หนี้ก็คงได้ หรือจะเดินทางไปประเทศอื่นที่ปลอดภัยน่าจะดีกว่า” นางประนอม กล่าว
ขณะที่ นางมาตร แก้วตะพาน อายุ 43 ปี และ นางปนิดา โพธิ์ศรีดี อายุ 25 ปี ชาว อ.จักราช แม่และภรรยา นายสาธิต แก้วตะพาน แรงงานไทยในลิเบีย บอกว่า ลูกชายไปทำงานเป็นช่างเครื่องยนต์ที่ลิเบียได้ 3 เดือน รู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก เมื่อเช้านี้ลูกโทรศัพท์มาหาบอกว่าสถานการณ์ที่นั่นเลวร้ายมาก มีคนเข้ามาปล้นอาหารของแรงงานไทยที่อยู่ในแคมป์เดียวกันกว่า 2,000 คน ไปหมด ตอนนี้ไม่มีอาหารกิน ลำบากมาก และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปช่วยเหลือเลย ฉะนั้นจึงอยากขอร้องให้รัฐบาลไทยเร่งให้การช่วยเหลือแรงงานไทยให้กลับประเทศโดยด่วน เกรงว่าลูกชายจะไม่ปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ที่หอประชุมเปรม ติณสูลานนท์ หลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการ นายแสงเงิน ขาวลิขิต จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ประสานให้ความช่วยเหลือแรงงานชาว จ.นครราชสีมาที่เดินทางไปทำงานในประเทศลิเบีย โดยประสานญาติเพื่อทราบข้อมูลโดยด่วนที่สุด
