ASTVผู้จัดการรายวัน - 3,717 แรงงานไทยหนีพ้น "ลิเบีย" แล้ว โฆษกแรงงานชี้ "ตริโปลี" ระอุหนักแต่เชื่อทุกคนยังปลอดภัย ส่วนล็อต 2 กว่า 400 คนเดินทางกลับถึงไทยแล้ว ดีใจที่เอาชีวิตรอดแต่พร้อมกลับไปอีก คาดล็อต 3 และ 4 รวม 7 พันกว่าคนทยอยถึงไทยใน 1-2 วัน
วานนี้ (27 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบียกลับประเทศไทยว่า ขณะนี้ได้มีการประสาน 2 ทาง เพื่อดำเนินการอพยพแรงงานไทยทั้งทางถนนและทางเรือ แต่ต้องดูเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อความปลอดภัย โดยคำนึงถึงปัญหาความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ก็จะมีการส่งเที่ยวบินพิเศษ เพื่อไปรับคนที่สามารถ จะเอาออกมาได้แล้ว ที่อยู่ที่ประเทศตูนีเซีย
ต่อข้อถามว่า แรงงานที่เดินทางกลับมานั้น จะเป็นผู้ว่างงาน ในเรื่องนี้จะมีการรองรับ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทางกระทรวงแรงงาน เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว ทั้งเรื่องการหางานให้ทำและเงินชดเชยรวมทั้งมาตรการที่จะดูแลเรื่องเงินกู้นอกระบบที่ติดตัวแรงงานมานั้น กระทรวงแรงงานคงจะต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่เบื้องต้นเมื่อเขากลับมา ก็มีการรองรับในเรื่องของการตกงาน ส่วนเรื่องเงินชดเชยนั้นกระทรวงแรงงานจะดูแล
เมื่อถามว่า กรณีกระทรวงแรงงานมีการจ่ายเงินชดเชยเบื้องต้นรายละ 10,000 บาท จะเพียงพอหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราต้องเอาเรื่องหลักก่อน คือการเอาคนกลับมา เมื่อกลับมาแล้ว เราจะดูข้อเท็จจริง เพราะแต่ละคนเขาไม่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า มีความชัดเจน หรือไม่ว่า แรงงานไทยที่จะเดินทางกลับมาในครั้งต่อไป จะมีประมาณเท่าไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่แรงงานที่อยู่ที่ประเทศอียิปต์ และประเทศตูนีเซีย จะมีประมาณ 2-3 พันคน รวมทั้งที่ทยอยออกมาอีก ทั้งนี้จะมีเรือไปรับแรงงานในวันอังคารนี้ ( 1 มี.ค ) ส่วนแรงงานอีกกว่า 20,000 คน จะมีการนำกลับมาหมด หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ความต้องการของเขา ซึ่งตนคิดว่าจากสถานการณ์ที่ลิเบีย แรงงานเกือบทั้งหมดต้องการที่จะกลับมา
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีปัญหาว่า อาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในแคมป์ ไม่เพียงพอ จะมีการช่วยเหลืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายามช่วยเหลือ ซึ่งได้มีการประสานกับนานาประเทศกันอยู่ โดยแต่ละประเทศก็มีปัญหาไม่เหมือนกัน ซึ่งของเราคนเยอะมาก
**กว่า 3 พันชีวิตถึงไทย 1 มี.ค
นายสุธรรม นทีทอง โฆษกกระทรวงแรงงาน ในฐานหัวหน้าคณะช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ ณ กรุงตริโปลี กำลังวิกฤตอย่างหนัก ส่งผลให้ไม่สามารถนำเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับแรงงานไทยที่ยังติดค้างอยู่จำนวน 223 คนได้ โดยเปลี่ยนเป็นการเช่ารถเพื่อเดินทางไปยังชายแดนประเทศตูนิเซียแทน ซึ่งในจุดดังกล่าวมีแรงงานไทยเดินทางไปรออยู่ตามชายแดนจำนวนกว่า 2,000 คน ขณะที่แรงงานไทยอีกกว่า 1,300 คน ได้เดินทางถึงประเทศอียิปต์แล้ว และกำลังเดินทางข้ามแดนมาเพิ่มอีก 800 คน ส่วนแรงงานไทยจำนวน 600 คน ที่เมืองเบนกาซี กำลังรอขึ้นเรือแต่ติดปัญหาการข้ามแดน โดยสถานทูตไทยที่ตุรกีกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือ
นายสุธรรม เปิดเผยด้วยว่า ตนจะเดินทางไปเมืองซาซีด และเมืองรัชอาเดีย ชายแดนประเทศลิเบีย เพื่อรับแรงงานไทยจำนวน 242 คนที่ยังติดค้างอยู่ ส่วนแรงงานที่ในแคมป์อื่น จากการติดต่อกับผ่านทางโทรศัพท์ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าแรงงานไทยทุกคนปลอดภัย ขณะที่ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เรือโดยสารที่จะไปรับแรงงานไทยจากกรุงตริโปลีลำแรก เพื่อเดินทางไปยังประเทศตูนิเซียจะมาถึง ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งประสานกับนายจ้างเพื่อพาแรงงานไทยออกมาขึ้นเรือให้ทันเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองกำลังทหารขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้มาประจำอยู่ที่ชายแดนประเทศลิเบียฝั่งที่ติดกับประเทศตูนิเซียแล้ว จึงอยากฝากถึงแรงงานไทยที่อยู่กระจัดกระจายตามแคมป์ต่างๆ ให้รีบเดินทางที่ชายแดนดังกล่าว ตนและเจ้าหน้าที่จะช่วยประสานให้เข้าประเทศ เพื่อหาเที่ยวบินให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
**คนงานบอกสงบจะกลับไปอีก
ด้าน นายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวภายหลังเดินทางมารับแรงงานในล็อตที่ 2 ซึ่งเป็นคนงานบริษัทโอเดอเบรช รับเหมาก่อสร้าง ท่าอากาศยานตริโปลี ประเทศลิเบีย จำนวน 449 คน ที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย โดยนายจ้างนำขึ้นเครื่องจากลิเบียมาที่ประเทศมอลตา ก่อนนำเครื่องบินเหมาลำรับกลับมายังประเทศไทยว่า ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยตกค้างอยู่ในเมืองตริโปลี เกือบ 20,000 คน โดยกระทรวงแรงงาน
ประสานกระทรวงการต่างประเทศส่งเรือนำเที่ยวไปรับแรงงานที่ตกค้างในลิเบียนำไปส่งที่อิตาลี และตูนิเซีย ในวันที่ 28 ก.พ. นี้ คาดจะช่วยเหลือแรงงานไทยได้อีก 4,000 คน อย่างไรก็ตามยังมีแรงงานตกค้างอีกเกือบ 20,000 คน ปัญหาในขณะนี้คือแรงงานไทยไม่สามารถขอวีซ่าออกนอกประเทศลิเบียได้ ทำให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง
นายพรมมา เสริมแก้ว หนึ่งในคนงานไทยที่เดินทางกลับ กล่าวว่า ระหว่างเดินทางมาขึ้นเครื่อง ทางทหารได้นำรถถัง และกำลังทหารมาคุ้มกัน เนื่องจากเกรงว่าผู้ประท้วงจะเข้ามาปล้นทรัพย์สิน โดยระหว่างติดค้างอยู่ในแคมป์คนงานได้ยินเสียงปืนตลอดเวลา ไม่สามารถออกไปไหนได้ อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์สงบ ยังอยากกลับไปทำงานที่ลิเบียอีก เนื่องจากรายได้ในไทยไม่พอเลี้ยงครอบครัว
**แรงงานกลับจาก"ลิเบีย" 31 คน เช้านี้
นายสุพจน์ บุญเจริญ ผู้อำนวยการกองตรวจและคุ้มครองคนหางาน แจ้งเปลี่ยนเที่ยวบินของแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย ว่า จากเดิมในวันนี้แรงงานไทย 31 คน มีกำหนดเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 06.00 น. จากกรุงเอเธน ประเทศกรีซ โดยนายจ้างชาวจีนเป็นผู้จัดส่ง ได้เปลี่ยนเวลาการเดินทางมาถึงประเทศไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 08.45 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 974 ตามเดิม ขณะที่ในเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมามีแรงงานไทยในลิเบียเดินทางกลับจากกรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จำนวน 16 คน โดยนายจ้างเป็นผู้จัดส่งเอง ไม่ได้แจ้งผ่านศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ อธิบดีกรมการจัดหางาน จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนชุดปฏิบัติการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จำนวน 9 คน โดยจะขึ้นเครื่องไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก่อนต่อเรือไปยังชายแดนประเทศตูนีเซีย
**กต.เผยออกมาแล้ว 3,717 คน
นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และนายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า เช้าวันนี้มีแรงงานไทยในลิเบียเดินทางจากมอลต้ามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 449 คน และ 8.45 น.จะมาจากกรีซอีก 31 คน ทำให้ขณะนี้มีแรงงานไทยอพยพออกจากลิเบียแล้วทั้งหมด 3,717 คน ดำเนินการโดยบริษัทจัดหางาน และบริษัทนายจ้าง ส่วนใหญ่ไปพักรอการส่งกลับอยู่ในประเทศที่ 3 อาทิ ไคโร (อียิปต์) 738 คน , ตุรกี 530 คน และมอลต้า 755 คน ขณะเดียวกันก็มีอีกกว่า 1,000 คนกำลังรอลงเรือที่เมืองเบงกาซีไปตุรกีหรืออียิปต์ แต่เนื่องจากคลื่นลมแปรปรวนมาก เรือยังไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้
ส่วนเรือขนส่งที่รัฐบาลเช่าเหมาลำจากอิตาลี เที่ยวแรกจะเข้าไปถึงกรุงทริโปลี วันอังคารที่ 1 มีนาคมนี้ เวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะรับแรงงานไทย 2,000 คนไปที่เมืองตูนีส ประเทศตูนีเซีย เที่ยวที่ 2 จะรับอีก 2,000 คนไปอิตาลี จากนั้นรัฐบาลก็จะส่งเครื่องบินการบินไทยไปรับตามประเทศต่าง ๆ ทั้งที่ตูนีเซีย , อียิปต์ , ตุรกี , กรีซ และอิตาลี
อย่างไรก็ตามทางศูนย์ติดตามสถานการณ์ได้แสดงความเป็นห่วงเหตุการณ์ในตูนีส ประเทศตูนีเซีย ที่เริ่มมีการชุมนุมประท้วงเหมือนที่ลิเบียบ้างแล้ว แต่ยังอยู่ห่างจากที่พักชั่วคราวของแรงงานไทยและสนามบิน หากสถานการณ์แย่ลงอาจต้องเปลี่ยนสถานที่ให้เรือขนส่งเที่ยวแรกนำแรงงานไทยไปที่กรีซหรือตุรกีแทน.
วานนี้ (27 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบียกลับประเทศไทยว่า ขณะนี้ได้มีการประสาน 2 ทาง เพื่อดำเนินการอพยพแรงงานไทยทั้งทางถนนและทางเรือ แต่ต้องดูเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพื่อความปลอดภัย โดยคำนึงถึงปัญหาความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ก็จะมีการส่งเที่ยวบินพิเศษ เพื่อไปรับคนที่สามารถ จะเอาออกมาได้แล้ว ที่อยู่ที่ประเทศตูนีเซีย
ต่อข้อถามว่า แรงงานที่เดินทางกลับมานั้น จะเป็นผู้ว่างงาน ในเรื่องนี้จะมีการรองรับ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้ทางกระทรวงแรงงาน เตรียมมาตรการรองรับไว้แล้ว ทั้งเรื่องการหางานให้ทำและเงินชดเชยรวมทั้งมาตรการที่จะดูแลเรื่องเงินกู้นอกระบบที่ติดตัวแรงงานมานั้น กระทรวงแรงงานคงจะต้องไปดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่เบื้องต้นเมื่อเขากลับมา ก็มีการรองรับในเรื่องของการตกงาน ส่วนเรื่องเงินชดเชยนั้นกระทรวงแรงงานจะดูแล
เมื่อถามว่า กรณีกระทรวงแรงงานมีการจ่ายเงินชดเชยเบื้องต้นรายละ 10,000 บาท จะเพียงพอหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราต้องเอาเรื่องหลักก่อน คือการเอาคนกลับมา เมื่อกลับมาแล้ว เราจะดูข้อเท็จจริง เพราะแต่ละคนเขาไม่เหมือนกัน
เมื่อถามว่า มีความชัดเจน หรือไม่ว่า แรงงานไทยที่จะเดินทางกลับมาในครั้งต่อไป จะมีประมาณเท่าไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตัวเลขจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่แรงงานที่อยู่ที่ประเทศอียิปต์ และประเทศตูนีเซีย จะมีประมาณ 2-3 พันคน รวมทั้งที่ทยอยออกมาอีก ทั้งนี้จะมีเรือไปรับแรงงานในวันอังคารนี้ ( 1 มี.ค ) ส่วนแรงงานอีกกว่า 20,000 คน จะมีการนำกลับมาหมด หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ที่ความต้องการของเขา ซึ่งตนคิดว่าจากสถานการณ์ที่ลิเบีย แรงงานเกือบทั้งหมดต้องการที่จะกลับมา
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีปัญหาว่า อาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในแคมป์ ไม่เพียงพอ จะมีการช่วยเหลืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พยายามช่วยเหลือ ซึ่งได้มีการประสานกับนานาประเทศกันอยู่ โดยแต่ละประเทศก็มีปัญหาไม่เหมือนกัน ซึ่งของเราคนเยอะมาก
**กว่า 3 พันชีวิตถึงไทย 1 มี.ค
นายสุธรรม นทีทอง โฆษกกระทรวงแรงงาน ในฐานหัวหน้าคณะช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ ณ กรุงตริโปลี กำลังวิกฤตอย่างหนัก ส่งผลให้ไม่สามารถนำเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับแรงงานไทยที่ยังติดค้างอยู่จำนวน 223 คนได้ โดยเปลี่ยนเป็นการเช่ารถเพื่อเดินทางไปยังชายแดนประเทศตูนิเซียแทน ซึ่งในจุดดังกล่าวมีแรงงานไทยเดินทางไปรออยู่ตามชายแดนจำนวนกว่า 2,000 คน ขณะที่แรงงานไทยอีกกว่า 1,300 คน ได้เดินทางถึงประเทศอียิปต์แล้ว และกำลังเดินทางข้ามแดนมาเพิ่มอีก 800 คน ส่วนแรงงานไทยจำนวน 600 คน ที่เมืองเบนกาซี กำลังรอขึ้นเรือแต่ติดปัญหาการข้ามแดน โดยสถานทูตไทยที่ตุรกีกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือ
นายสุธรรม เปิดเผยด้วยว่า ตนจะเดินทางไปเมืองซาซีด และเมืองรัชอาเดีย ชายแดนประเทศลิเบีย เพื่อรับแรงงานไทยจำนวน 242 คนที่ยังติดค้างอยู่ ส่วนแรงงานที่ในแคมป์อื่น จากการติดต่อกับผ่านทางโทรศัพท์ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าแรงงานไทยทุกคนปลอดภัย ขณะที่ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เรือโดยสารที่จะไปรับแรงงานไทยจากกรุงตริโปลีลำแรก เพื่อเดินทางไปยังประเทศตูนิเซียจะมาถึง ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งประสานกับนายจ้างเพื่อพาแรงงานไทยออกมาขึ้นเรือให้ทันเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองกำลังทหารขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้มาประจำอยู่ที่ชายแดนประเทศลิเบียฝั่งที่ติดกับประเทศตูนิเซียแล้ว จึงอยากฝากถึงแรงงานไทยที่อยู่กระจัดกระจายตามแคมป์ต่างๆ ให้รีบเดินทางที่ชายแดนดังกล่าว ตนและเจ้าหน้าที่จะช่วยประสานให้เข้าประเทศ เพื่อหาเที่ยวบินให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
**คนงานบอกสงบจะกลับไปอีก
ด้าน นายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวภายหลังเดินทางมารับแรงงานในล็อตที่ 2 ซึ่งเป็นคนงานบริษัทโอเดอเบรช รับเหมาก่อสร้าง ท่าอากาศยานตริโปลี ประเทศลิเบีย จำนวน 449 คน ที่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทย โดยนายจ้างนำขึ้นเครื่องจากลิเบียมาที่ประเทศมอลตา ก่อนนำเครื่องบินเหมาลำรับกลับมายังประเทศไทยว่า ขณะนี้ยังมีแรงงานไทยตกค้างอยู่ในเมืองตริโปลี เกือบ 20,000 คน โดยกระทรวงแรงงาน
ประสานกระทรวงการต่างประเทศส่งเรือนำเที่ยวไปรับแรงงานที่ตกค้างในลิเบียนำไปส่งที่อิตาลี และตูนิเซีย ในวันที่ 28 ก.พ. นี้ คาดจะช่วยเหลือแรงงานไทยได้อีก 4,000 คน อย่างไรก็ตามยังมีแรงงานตกค้างอีกเกือบ 20,000 คน ปัญหาในขณะนี้คือแรงงานไทยไม่สามารถขอวีซ่าออกนอกประเทศลิเบียได้ ทำให้การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง
นายพรมมา เสริมแก้ว หนึ่งในคนงานไทยที่เดินทางกลับ กล่าวว่า ระหว่างเดินทางมาขึ้นเครื่อง ทางทหารได้นำรถถัง และกำลังทหารมาคุ้มกัน เนื่องจากเกรงว่าผู้ประท้วงจะเข้ามาปล้นทรัพย์สิน โดยระหว่างติดค้างอยู่ในแคมป์คนงานได้ยินเสียงปืนตลอดเวลา ไม่สามารถออกไปไหนได้ อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์สงบ ยังอยากกลับไปทำงานที่ลิเบียอีก เนื่องจากรายได้ในไทยไม่พอเลี้ยงครอบครัว
**แรงงานกลับจาก"ลิเบีย" 31 คน เช้านี้
นายสุพจน์ บุญเจริญ ผู้อำนวยการกองตรวจและคุ้มครองคนหางาน แจ้งเปลี่ยนเที่ยวบินของแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย ว่า จากเดิมในวันนี้แรงงานไทย 31 คน มีกำหนดเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลา 06.00 น. จากกรุงเอเธน ประเทศกรีซ โดยนายจ้างชาวจีนเป็นผู้จัดส่ง ได้เปลี่ยนเวลาการเดินทางมาถึงประเทศไทยที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 08.45 น. โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 974 ตามเดิม ขณะที่ในเวลา 14.30 น. ที่ผ่านมามีแรงงานไทยในลิเบียเดินทางกลับจากกรุงไคโร สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ จำนวน 16 คน โดยนายจ้างเป็นผู้จัดส่งเอง ไม่ได้แจ้งผ่านศูนย์ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ อธิบดีกรมการจัดหางาน จะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนชุดปฏิบัติการช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน จำนวน 9 คน โดยจะขึ้นเครื่องไปยังกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก่อนต่อเรือไปยังชายแดนประเทศตูนีเซีย
**กต.เผยออกมาแล้ว 3,717 คน
นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ และนายสุเมธ มโหสถ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า เช้าวันนี้มีแรงงานไทยในลิเบียเดินทางจากมอลต้ามาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ 449 คน และ 8.45 น.จะมาจากกรีซอีก 31 คน ทำให้ขณะนี้มีแรงงานไทยอพยพออกจากลิเบียแล้วทั้งหมด 3,717 คน ดำเนินการโดยบริษัทจัดหางาน และบริษัทนายจ้าง ส่วนใหญ่ไปพักรอการส่งกลับอยู่ในประเทศที่ 3 อาทิ ไคโร (อียิปต์) 738 คน , ตุรกี 530 คน และมอลต้า 755 คน ขณะเดียวกันก็มีอีกกว่า 1,000 คนกำลังรอลงเรือที่เมืองเบงกาซีไปตุรกีหรืออียิปต์ แต่เนื่องจากคลื่นลมแปรปรวนมาก เรือยังไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้
ส่วนเรือขนส่งที่รัฐบาลเช่าเหมาลำจากอิตาลี เที่ยวแรกจะเข้าไปถึงกรุงทริโปลี วันอังคารที่ 1 มีนาคมนี้ เวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะรับแรงงานไทย 2,000 คนไปที่เมืองตูนีส ประเทศตูนีเซีย เที่ยวที่ 2 จะรับอีก 2,000 คนไปอิตาลี จากนั้นรัฐบาลก็จะส่งเครื่องบินการบินไทยไปรับตามประเทศต่าง ๆ ทั้งที่ตูนีเซีย , อียิปต์ , ตุรกี , กรีซ และอิตาลี
อย่างไรก็ตามทางศูนย์ติดตามสถานการณ์ได้แสดงความเป็นห่วงเหตุการณ์ในตูนีส ประเทศตูนีเซีย ที่เริ่มมีการชุมนุมประท้วงเหมือนที่ลิเบียบ้างแล้ว แต่ยังอยู่ห่างจากที่พักชั่วคราวของแรงงานไทยและสนามบิน หากสถานการณ์แย่ลงอาจต้องเปลี่ยนสถานที่ให้เรือขนส่งเที่ยวแรกนำแรงงานไทยไปที่กรีซหรือตุรกีแทน.
