เอเอฟพี - ทางการลิเบียจับชาวอาหรับต่างชาตินับสิบคนด้วยข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการล้มล้างรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 80 คน
สำนักข่าวญานาของลิเบีย รายงานว่า ชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมในหลายเมืองเป็น “เครือข่ายต่างชาติที่ถูกฝึกมาให้ทำลายความมั่นคงภายในลิเบีย ตลอดจนความสงบสุขและความเป็นเอกภาพในชาติ” พร้อมชี้เป็นนัยว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็คือ อิสราเอล
ชาวต่างชาติซึ่งเป็นพลเมืองตูนีเซีย, อียิปต์, ซูดาน, ปาเลนไสต์, ซีเรีย และตุรกี ถูกแจ้งข้อหา “ยั่วยุให้ประชาชนปล้นชิงและทำลายสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล, ธนาคาร, ศาล, เรือนจำ, สถานีตำรวจ, สำนักงานตำรวจทหาร และทรัพย์สินของเอกชนอื่นๆ ซึ่งเป็นแผนที่มีการวางไว้ล่วงหน้า” สำนักข่าวญานา เผย
สำนักข่าวแห่งชาติของลิเบียยังระบุด้วยว่า “แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวนยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่า อิสราเอลจะอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้”
องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสังหารผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 80 รายทางภาคตะวันออกของลิเบีย ซึ่งรัฐบาลอังกฤษประณามว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายน่ากลัวอย่างยิ่ง
หลังจากที่ผู้ประท้วงใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก เพื่อแสวงหาแนวร่วมเช่นเดียวกับในอียิปต์ รัฐบาลลิเบียจึงได้ปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ทำได้ยากลำบากทั้งในเมืองตริโปลีและเบนกาซี
แหล่งข่าวภายในโรงพยาบาลระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้สังหารประชาชนในเมืองเบนกาซีไป 35 คนเมื่อวันศุกร์ (18) โดยเกือบทั้งหมดถูกยิงด้วยกระสุนจริง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้มากกว่า 80 คนแล้ว ฮิวแมนไรต์วอตช์ เผย
ด้าน อับเดลราห์มาน อัล-อับบาร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมลิเบีย สั่งให้สอบสวนเหตุเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมทางภาคตะวันออกของประเทศแล้ว เจ้าหน้าที่ในเมืองตริโปลีซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุ
หนังสือพิมพ์กูรีนาของลิเบีย รายงานว่า เกิดเหตุนักโทษแหกคุกกว่า 1,000 คนที่เรือนจำเมืองเบนกาซี ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระบุว่า มีนักโทษถูกยิงเสียชีวิต 4 คนขณะพยายามหลบหนี
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยสันติในลิเบีย, บาห์เรน และ เยเมน ขณะที่อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป ต่างก็เรียกร้องให้รัฐบาลลิเบียยุติความรุนแรงต่อประชาชน