นครพนม-จนท.ปกครอง ร่วม ตชด.บุกจับโรงงานไม้ทำขี้เลื่อย สจ.คนดังสกลนครพบไม้เถื่อนผิดกฎหมายเพียบ สั่งอายัดตรวจสอบ ตั้งข้อหาดำเนินคดี
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผวจ.นครพนม มีคำสั่งให้ นายเชิดพันธ์ ผลวิเชียร ผบ.ร้อย อส.จังหวัดนครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ พ.ต.ท.ทวี สารกาล ผบ.ร้อย ตชด.236 อ.เมือง จ.นครพนม นายอภิชัย ฤทธิกรรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.นครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่เลขที่ 265 บ.นาคม ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ติดถนนสายศรีสงคราม-ท่าแร่ บริเวณหลัก กม.ที่ 15 เพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการในการประกอบกิจการ
จากการตรวจสอบทราบชื่อเจ้าของ คือ นายพงศา คอมแพงจันทร์ อายุ 49 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เขต อ.วานรนิวาส พบมีการขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร อนุญาตเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 ซึ่งภายในพื้นที่ดังกล่าวพบมีการนำไม้ป่าหลายชนิดตัดเป็นท่อนขนาดประมาณ 2 เมตร หน้ากว้างหลายขนาด จำนวนกว่า 300 ท่อน ที่ชาวบ้านนำบรรทุกใส่รถไถพ่วงมาขาย รอทำการแปรรูปเป็นขี้เลื่อย เพื่อส่งออกไปขายป้อนโรงงานไฟฟ้าชีวมวลที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด
นอกจากนี้ยังพบกองขี้เลื่อยจากการแปรรูปไม้ขนาดความสูงกว่า 3 เมตร น้ำหนักหลาย 10 ตัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ พร้อมตั้งข้อหา แปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง และสั่งให้มีการหยุดดำเนินกิจการไว้ชั่วคราว
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ นายพงศา คอมแพงจันทร์ อายุ 49 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เขต อ.วานรนิวาส เจ้าของโรงงาน ให้การว่า สำหรับโรงงานดังกล่าวได้มีการขออนุญาตจัดตั้งโรงงานถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากโรงานดังกล่าวตนตั้งขึ้นเพื่อต้องการให้ชาวบ้านมีรายได้จากการขายเศษไม้ หรือไม้หัวไร่ปลายนาที่ตัดมาขายเป็นท่อน รับซื้อในราคาประมาณตันละ 200-300 บาท นำมาแปรรูปเป็นขี้เลื่อยส่งป้อนโรงานไฟฟ้าชีวมวล ราคาตันละประมาณ 700 บาท มีการการส่งออกวันละประมาณ 100 ตันต่อวัน ส่วนการที่เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบครั้งนี้ตนมีความบริสุทธิ์ใจ และมีเอกสารแสดงทุกอย่าง ไม่มีเจตนากระทำผิด ขอให้ว่าไปตามกฎหมาย
ด้าน นายอภิชัย ฤทธิกรรณ์ หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.นครพนม กล่าวว่า วันนี้ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตามคำสั่งของ ผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อมาตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้ เบื้องต้นตรวจสอบมีการขออนุญาตประกอบกิจการจริง แต่ในการอนุญาตนั้นตามกฎหมายได้มีการระบุไม้ไว้จำนวน 13 ชนิด แต่พอตรวจสอบกับพบว่ามีการนำไม้อื่นๆ มาแปรรูปด้วย
ถือว่าเป็นการกระทำผิด ในส่วนของชาวบ้านที่นำไม้มาขายนั้นก็สามารถทำได้หากเป็นไม้ในที่มีเอกสารสิทธิ แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบ เพราะไม้ที่นำมาจำหน่ายมีจำนวนมาก เบื้องต้นจากการตรวจสอบได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครอง และสั่งให้มีการหยุดดำเนินกิจการไว้ชั่วคราว พร้อมตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้ตรวจสอบ ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป