บุรีรัมย์ - เกษตรกรบุรีรัมย์ เบี้ยวชำระหนี้สิน ธ.ก.ส.เกรงถูกฟ้อง แห่เข้าร่วมโครงการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 1,082 ราย เป็นเงินกว่า 210.9 ล้านบาท ส่วนมากมีปัญหาใช้จ่ายเงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ รายได้ไม่เพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว เผยทั้งจังหวัดมีเกษตรกรเข้าข่ายถูกฟ้องกว่า 2,400 ราย
วันนี้ (21 ก.พ.) นายนิยม รัตนเย็นใจ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทาง ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ จัดโครงการ “ไกล่เกลี่ยหนี้สินเกษตรกรที่มีปัญหา” ขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติ ภาวะเศรษฐกิจ มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว และนำเงินกู้ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ จนไม่สามารถชำระหนี้ให้กับ ธ.ก.ส.ได้ตามเงื่อนไขสัญญา
จากการเปิดโครงการไกล่เกลี่ยครั้งนี้ ได้มีเกษตรกรที่ค้างชำระหนี้สินเกรงถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้น 1,082 ราย เป็นเงิน 210,991,362 บาท แยกเป็นเงินต้น 144,983,280 บาท ดอกเบี้ย 66,008,082 บาท และยังมีเกษตรกรกร นัดชำระเงินสดอีก 17,425,640 บาท ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ทั้งจังหวัดบุรีรัมย์มีเกษตรกรลูกหนี้ที่เข้าข่ายจะถูกฟ้องร้องกว่า 2,400 ราย
นายนิยม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ทาง ธ.ก.ส.ได้ปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรสมาชิกลูกค้า ไปลงทุนประกอบอาชีพ และทำการเกษตร แต่ประสบกับภาวะทางเศรษฐกิจ มีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครอบครัว และนำเงินกู้ไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ จนไม่สามารถชำระหนี้ให้กับธนาคาร ธ.ก.ส.ได้ตามเงื่อนไขสัญญาจำนวนมาก เชื่อว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถลดปริมาณคดีฟ้องร้องที่จะขึ้นสู่ศาลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ยังได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ทั้งยังได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และไม่ต้องเป็นผู้ถูกแบล็กลิสต์จาก ธ.ก.ส.และสถาบันการเงินอื่น
นอกจากนั้น เกษตรกรที่ผ่านการไกล่เกลี่ย และชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด ทาง ธ.ก.ส.ยังได้รับการพิจารณาให้เป็นลูกค้าที่ไม่มีหนี้เสีย และสามารถกู้ยืมเงินไปลงทุนได้ตามปกติดังกล่าวอีกด้วย