บุรีรัมย์ - ธนาคาร ธ.ก.ส.ร่วม ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เรียกลูกหนี้เกษตรกรกว่า 1,200 ราย ที่เบี้ยวไม่ชำระหนี้กว่า 100 ล้าน เข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องศาล 2-4 ก.พ.นี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ และลดคดีขึ้นสู่ศาล พร้อมขู่หากเกษตรกรลูกหนี้ไม่มาตามนัด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
วันนี้ (19 ม.ค. ) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บุรีรัมย์ และศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องไกล่เกลี่ยชั้น 3 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ในการเตรียมเรียกเกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ ธ.ก.ส.ที่ไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไข จนก่อให้เกิดหนี้เสียในเบื้องต้นกว่า 1,200 ราย มูลหนี้กว่า 100 ล้านบาท เข้ามาไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องศาล เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ในระหว่างวันที่ 2-4 ก.พ.นี้ ที่ศาลาประชาคมหลังศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ศาลเป็นสื่อกลางในการไกล่เกลี่ย แต่หากลูกหนี้เกษตรกรรายใดยังเพิกเฉย ไม่เข้ามาร่วมโครงการไกล่เกลี่ยประนีประนอมหนี้ตามกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
นายนิยม รัตนเย็นใจ ผู้อำนวยการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทางธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรที่เป็นลูกค้า เพื่อนำไปลงทุนทำการเกษตรทั้งจังหวัดกว่า 130,000 ราย เป็นเงินกว่า 12,000 ล้านบาท มีเกษตรกรไม่ชำระหนี้คืนตามเงื่อนไขจนก่อให้เกิดหนี้เสียขณะนี้อยู่กว่า 10,000 ราย รวมมูลหนี้กว่า 600 ล้านบาท
จากการสำรวจส่วนมากเกษตรกรที่ไม่มาชำระหนี้ตามเงื่อนไข เป็นเพราะมีรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ใช้จ่ายเงินเกินความจำเป็น รวมถึงนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ จนไม่มีเงินมาชำระหนี้คืน และให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง
ด้าน นายวิวุฒิ มณีนิล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถลดปริมาณคดีฟ้องร้องที่จะขึ้นสู่ศาลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ยังจะได้รับสิทธิพิเศษ ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล ทั้งจะได้รับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และไม่ต้องเป็นผู้ถูกขึ้นแบล็กลิสต์จากธนาคาร ธ.ก.ส.และ สถาบันการเงินอื่นๆ ดังกล่าวอีกด้วย
