xs
xsm
sm
md
lg

“กยศ.”เดินสายรับไกล่เกลี่ยหนี้ ผู้กู้ศรีสะเกษค้างชำระ 4,216 ราย 335 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศรีสะเกษ – “ กยศ.” เดินสายร่วม ศาลจังหวัดฯ จัดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องที่จ.ศรีสะเกษ ให้โอกาสผู้กู้ที่ค้างชำระหนี้ซึ่งจะถูกดำเนินคดีเข้าเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อลดปริมาณคดีสู่ศาล-ลดค่าใช้จ่ายการดำเนินคดีและติดตามหนี้ เผยปีนี้ จ.ศรีสะเกษ มีผู้กู้ค้างชำระจะถูกดำเนินคดี 4,216 ราย มูลหนี้ 335 ล้าน ส่วนทั้งประเทศค้างชำระกว่า 1.6 แสนรายรวมมูลหนี้กว่า 1.5 หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายประเสริฐตั้งสถาพรพันธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องดำเนินคดี ประจำปีงบประมาณ 2553 ซึ่ง ศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกับสำนักระงับข้อพิพาท และ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 10 - 13 พ.ย.

ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดปริมาณคดีที่จะเข้าสู่ศาล เปิดโอกาสให้นักศึกษาผู้กู้ที่ค้างชำระเงินกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และผู้ค้ำประกัน มาไกล่เกลี่ยหนี้ ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีกับผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน

ในปีนี้ทั่วประเทศมีกลุ่มผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ 5 งวด ขึ้นไป จำนวนทั้งสิ้น 161,739 ราย
เป็นมูลค่าหนี้ค้างชำระ จำนวน 15,824 ล้านบาท แบ่งเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 58,788 ราย มีหนี้ค้างชำระ 4,654 ล้านบาท

นายประเสริฐ ตั้งสถาพรพันธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2553 กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาจะดำเนินคดีกับผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่มีหนี้ค้างชำระ ในเขต จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 4,216 ราย คิดเป็นมูลค่าหนี้ค้างชำระ 335 ล้านบาท ซึ่งหากมีการนำคดีดังกล่าวยื่นฟ้องต่อศาลจะทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเป็นจำนวนมาก

ดังนั้น การที่ศาลจังหวัดศรีสะเกษ และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจัดโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องนี้ เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของสำนักงานระงับข้อพิพาทสำนักงานยุติธรรม ในด้านการลดปริมาณคดีที่จะขึ้นสู่ศาล อีกทั้งเป็นการรณรงค์ให้เป็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง

การจัดกิจกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องในครั้งนี้ได้จัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย
เพื่อหาทางออกร่วมกันในการแก้ปัญหาหนี้ที่ค้างชำระ ระหว่างผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่จะถูกดำเนินคดีในปี 2553 กับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ซึ่งการสามารถเจรจาตกลงกันได้ ทั้งผู้กู้และผู้ค้ำประกันก็จะไม่ถูกดำเนินคดีในศาล

นอกจากนั้นยังเป็นการลดค่าใช้จ่าย ในการดำเนินคดีของกองทุนเงินให้กู้ยืม เพื่อการศึกษาซึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินอีกทางหนึ่งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น