พะเยา - เกษตรกรพะเยา กลัวชื่อหลุดร่วมโควตาปลูกยาง 8 แสนไร่ แห่ปักหลักนอนรอที่ สนง.สกย.ข้ามคืน ขณะที่การเปิดรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการวันแรก (15 ก.พ.) มียอดเกินโควตาแล้ว
วันนี้ (15 ก.พ.) นายธงชัย รับพร ผอ.สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.พะเยา เปิดเผยถึงการรับสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ระยะ 3 ตามมติ ครม. 800,000 ไร่ ทั่วประเทศ ว่า ในพื้นที่พะเยา มีเกษตรกรจาก อ.เชียงคำ-อ.ภูซาง มานอนรอที่ สนง.สกย.ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.พ.) ถึง 70 คน เนื่องจากเกรงว่า จะไม่ได้รับพิจารณาคัดเลือดเข้าร่วมโครงการ เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีคนมาสมัครเข้าโครงการกันเป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงจำเป็นต้องมาพักแรมที่สำนักงาน เพื่อจะได้สมัครลงทะเบียนเป็นลำดับต้นๆ ช่วยให้เชื่อมั่นว่าน่าจะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับแรกเช่นกัน
นายธงชัย กล่าวว่า และตั้งแต่เริ่มเปิดรับสมัครลงทะเบียน เมื่อเวลา 08.30 น.จนถึงเวลา 12.00 น.ของวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรก ได้มีเกษตรกรจากทุกอำเภอใน จ.พะเยา สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,600 ราย ซึ่งถือว่ามากเมื่อเทียบกับจำนวนวันที่เปิดรับสมัคร คือ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 มี.ค.เป็นเวลา 1 เดือน และเทียบกับจำนวนโควตาที่ จ.พะเยา ได้รับปีนี้เพียง 3,600 ไร่ เท่านั้น หรือ 720 ราย ขณะที่ในช่วงบ่ายของวันนี้ก็ยังคงมีเกษตรกรทยอยเดินทางมาสมัครเข้าร่วมโครงการกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับจังหวัดพะเยา ได้รับโควตาทั้งสิ้นตลอดโครงการ 3 ปี อยู่ที่ 13,500 ไร่ แยกเป็น ปี 54 จำนวน 3,600 ไร่ , ปี 55 จำนวน 4,950 ไร่ และปี 56 อีก 4,950 ไร่ ขณะที่ภาคเหนือได้รับโควตาน้อยสุด ที่ 150,000 ไร่เท่านั้น
ทั้งนี้ เกษตรกรที่มาสมัครเข้าร่วมโครงการฯในครั้งนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกว่าตรงตามคุณลักษณะที่ทางการกำหนดหรือไม่ รวมถึงการทำประชาคมในพื้นที่ปลูกยางของเกษตรกรว่าเป็นที่ของเกษตรกรจริงหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาสนับสนุนการปลูกสวนยางแบบให้เปล่าในที่ดินมีกรรมสิทธิ์ในรายละ 2-15 ไร่ ตามโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ระยะ 3 ตามมติ ครม.800,000 ไร่ ทั่วประเทศต่อไป
วันนี้ (15 ก.พ.) นายธงชัย รับพร ผอ.สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง จ.พะเยา เปิดเผยถึงการรับสมัครลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ระยะ 3 ตามมติ ครม. 800,000 ไร่ ทั่วประเทศ ว่า ในพื้นที่พะเยา มีเกษตรกรจาก อ.เชียงคำ-อ.ภูซาง มานอนรอที่ สนง.สกย.ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.พ.) ถึง 70 คน เนื่องจากเกรงว่า จะไม่ได้รับพิจารณาคัดเลือดเข้าร่วมโครงการ เพราะมีกระแสข่าวว่าจะมีคนมาสมัครเข้าโครงการกันเป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงจำเป็นต้องมาพักแรมที่สำนักงาน เพื่อจะได้สมัครลงทะเบียนเป็นลำดับต้นๆ ช่วยให้เชื่อมั่นว่าน่าจะได้รับการพิจารณาเป็นอันดับแรกเช่นกัน
นายธงชัย กล่าวว่า และตั้งแต่เริ่มเปิดรับสมัครลงทะเบียน เมื่อเวลา 08.30 น.จนถึงเวลา 12.00 น.ของวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรก ได้มีเกษตรกรจากทุกอำเภอใน จ.พะเยา สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,600 ราย ซึ่งถือว่ามากเมื่อเทียบกับจำนวนวันที่เปิดรับสมัคร คือ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.-15 มี.ค.เป็นเวลา 1 เดือน และเทียบกับจำนวนโควตาที่ จ.พะเยา ได้รับปีนี้เพียง 3,600 ไร่ เท่านั้น หรือ 720 ราย ขณะที่ในช่วงบ่ายของวันนี้ก็ยังคงมีเกษตรกรทยอยเดินทางมาสมัครเข้าร่วมโครงการกันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับจังหวัดพะเยา ได้รับโควตาทั้งสิ้นตลอดโครงการ 3 ปี อยู่ที่ 13,500 ไร่ แยกเป็น ปี 54 จำนวน 3,600 ไร่ , ปี 55 จำนวน 4,950 ไร่ และปี 56 อีก 4,950 ไร่ ขณะที่ภาคเหนือได้รับโควตาน้อยสุด ที่ 150,000 ไร่เท่านั้น
ทั้งนี้ เกษตรกรที่มาสมัครเข้าร่วมโครงการฯในครั้งนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกว่าตรงตามคุณลักษณะที่ทางการกำหนดหรือไม่ รวมถึงการทำประชาคมในพื้นที่ปลูกยางของเกษตรกรว่าเป็นที่ของเกษตรกรจริงหรือไม่ ก่อนจะพิจารณาสนับสนุนการปลูกสวนยางแบบให้เปล่าในที่ดินมีกรรมสิทธิ์ในรายละ 2-15 ไร่ ตามโครงการปลูกยางพาราในที่แห่งใหม่ระยะ 3 ตามมติ ครม.800,000 ไร่ ทั่วประเทศต่อไป
