"คลัง" ดิ้นหาเงินช่วยนิคมฯ สร้างเขื่อนกันน้ำ หวั่น พ.ร.ก. วงเงิน 5 หมื่นล. สะดุด เล็งชง ครม. หาทางออก ด้านนิคมอุตฯ เร่งเพิ่มวงเงินกู้สร้างเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น หลังทราบข่าว รบ. มีนโยบายสมทบเงินให้เปล่า 2 ใน 3 ของเงินที่นิคมกู้สร้างเขื่อน
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เงื่อนไขการปล่อยกู้เพื่อให้นิคมอุตสาหกรรมสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ขณะนี้พบว่ายังมีปัญหา ทำให้ธนาคารออมสินไม่สามารถปล่อยกู้ได้ โดยเฉพาะในส่วนของเงื่อนไขเงิน 2 ใน 3 ส่วนที่รัฐบาลจะให้เปล่ากับนิคมอุตสาหกรรม เดิมที่จะใช้จากเงินกองทุนประกันภัยพิบัติ ที่ตั้งขึ้นจากการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท มาจ่ายให้กับนิคมอุตสาหกรรม แต่ในข้อเท็จจริง อาจทำไม่ได้เพราะกฎหมายของกองทุนไม่ได้เปิดช่องให้นำเงินมาใช้ในส่วนนี้
ทั้งนี้ เงินกู้ปล่อยกู้สร้างเขื่อนแบ่งเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นเงินกู้จากธนาคารออมสิน 1 ใน 3 ของยอดเงินกู้ อัตราดอกเบี้ย 0.01% เป็นเวลา 15 ปี ปลอดชำระเงินต้นเป็นเวลา 5 ปี ในส่วนนี้ไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาติดขัดในส่วนของเงิน 2 ใน 3 ที่รัฐบาลจะให้เปล่ากับนิคม
"ตอนนี้ ยังติดปัญหาในส่วนเงิน 2 ใน 3 ที่รัฐบาลจะให้เปล่ากับนิคม ซึ่งจากเดิมที่จะใช้จากเงินกองทุนประกันภัยพิบัติ ที่ตั้งขึ้นจาก พ.ร.ก. วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท มาจ่ายให้กับนิคม แต่ทำไม่ได้เพราะกฎหมายของกองทุนไม่ได้เปิดช่องให้นำไปใช้ในส่วนนี้"
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะหาทางออกเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ โดยเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบการปล่อยกู้สร้างเขื่อนไปก่อน โดยจะใช้เงินจากงบประมาณ มาสนับสนุนให้กับนิคมฯ แทนเงินที่เดิมจะใช้จากกองทุนประกันฯ
"เงินทั้ง 2 ส่วน ทั้งของออมสินและเงินให้เปล่าที่รัฐหามานั้นจะจัดอยู่ในแพ็กเกจเดียวกันที่ใช้ในการปล่อยกู้ แล้วให้นิคมฯ กู้แล้วชำระคืนเพียงในส่วนของธนาคารออมสิน 1 ใน 3 เท่านั้น แต่เมื่อเงินในส่วของรัฐบาลมีปัญหาทำให้ออมสินจึงยังปล่อยเงินออกมาไม่ได้"
นายอารีพงศ์ กล่าวอีกว่า มูลค่าการสร้างเขื่อนทั้ง 7 นิคม มีวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท เป็นเงินที่รัฐบาลต้องหามาให้เปล่ากับนิคมจำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นวงเงินจำนวนไม่มากเทียบกับการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจากความเสียน้ำท่วมในปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ของภาคอุตสาหกรรมมีการขอเครมประกันจำนวน 3 แสนล้านบาท และเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในนิคม 2.5 แสนล้านบาท
สำหรับการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมของนิคมฯ แม้ว่าเงื่อนไขการปล่อยกู้จะยังไม่ผ่านความเห็นชอบ ครม. แต่ได้มีการดำเนินการแล้ว และมีการรายงานว่า นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เพิ่มวงเงินกู้สร้างเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นจำนวนมาก หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายสมทบเงินให้เปล่า 2 ใน 3 ของเงินที่นิคมกู้สร้างเขื่อน
