ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 เผยยาเสพติดปริมาณมหาศาลจ่อชายแดนภาคเหนือตอนบนเตรียมพร้อมรอทะลักทันทีที่มีคำสั่งซื้อ ระบุขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านเริ่มประสบปัญหาขาดเงินรายได้ เหตุส่งยาเสพติดออกมาขายแล้วถูก จนท.สกัดกั้นไว้หมด ล่าสุดพบมีการจัดโปรโมชันลดราคาขายยาเสพติดที่ชายแดนลง 30-50% หวังจูงใจมีคำสั่งซื้อเพิ่ม
นายพรเทพ เอี่ยมประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 เปิดเผยว่า จากข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทราบว่า เวลานี้มียาเสพติดเป็นจำนวนมาก ที่เตรียมพร้อมลักลอบขนย้ายเข้ามาสู่ประเทศไทย โดยใช้ช่องทางตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทั้งนี้ แม้ว่าจะไม่ทราบปริมาณที่แน่ชัดของยาเสพติดแต่ละประเภทว่ามีจำนวนเท่าใด แต่เชื่อแน่ว่ามีปริมาณมหาศาลอย่างแน่นอน โดยพร้อมที่จะทะลักเข้ามาทันทีที่มีการสั่งซื้อ
นอกจากนี้ ผลจากการที่เจ้าหน้าที่ของไทยสามารถทำงานในการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงนำเข้ายาเสพติดมาสู่ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดซึ่งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ต้องประสบปัญหาในเรื่องของการขาดเงินหมุนเวียน เนื่องจากส่งยาเสพติดออกมาขาย แต่ไม่มีเงินกลับเข้าไป เพราะยาเสพติดถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผลจากเรื่องดังกล่าว ทำให้ขณะนี้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านลดราคาขายยาเสพติดที่บริเวณชายแดนลง เพื่อจูงใจให้มีการสั่งยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น โดยราคายาบ้าที่ชายแดน จากเดิมเม็ดละ 45-50 บาท ลดลงเหลือเม็ดละ 30-40 บาท ส่วนยาไอซ์ จากเดิมราคากิโลกรัมละ 1-1.2 ล้านบาท เหลือกิโลกรัมละ 6 แสนบาท จึงทำให้เชื่อว่าในช่วงจากนี้ไป แนวโน้มของความพยายามที่จะลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศจะเพิ่มสูงขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม แม้ราคายาเสพติดที่ชายแดนจะลดลง แต่ราคายาเสพติดที่มีการซื้อขายกันในพื้นที่ชั้นในกลับมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการทำงานที่มีประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จนทำให้เกิดภาวะขาดแคลนและส่งผลให้ความต้องการของผู้ใช้ยาเพิ่มมากขึ้น โดยในขณะนี้พบว่าขณะนี้ยาบ้ามีราคาเพิ่มขึ้นเป็นเม็ดละ 200-250 บาท จากเดิมเม็ดละ 150-200 บาทเท่านั้น
ในส่วนสถานการณ์ของเฮโรอีนที่มีความพยายามลักลอบลำเลียงเข้ามานั้น ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 กล่าวว่า เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะยังคงมีการแพร่ระบาดในระดับที่รุนแรงอยู่ ทั้งนี้ เห็นได้จากข้อมูลที่พบว่า ในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ มีพื้นที่ปลูกฝิ่นซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตเฮโรอีนเพิ่มขึ้นจากเดิม 30% โดยเฉพาะในเขตของสหภาพพม่า ซึ่งเป็นตัวชี้วัดให้เห็นแนวโน้มสถานการณ์ของเฮโรอีน
ขณะเดียวกัน นายพรเทพเปิดเผยว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้มีการจับตาดูความเคลื่อนไหวของกาสิโนที่ตั้งอยู่ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน เนื่องจากหวั่นเกรงว่า จะถูกใช้เป็นที่พักและทางผ่านของยาเสพติด รวมทั้งเป็นแหล่งฟอกเงินให้กับนายทุนของขบวนการค้ายาเสพติดที่อยู่นอกประเทศด้วย ซึ่งยอมรับว่า แม้เบื้องต้นจะไม่สามารถดำเนินการใดๆ กับขบวนการเหล่านี้ได้ เพราะอยู่นอกประเทศ แต่ก็ต้องมีการจับตาดูความเคลื่อนไหว พร้อมทั้งประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล กับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดไว้อย่างต่อเนื่อง