นครศรีธรรมราช - ผบก.นครศรีธรรมราช เริ่มแผนกวาดล้างยาเสพติดใน อ.พรหมคีรี สุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียนชั้น ม.1 พบมีสารเสพติดปัสสาวะสีม่วง จำนวน 22 คน จาก 35 คนลั่นหากแก้ปัญหาไม่ได้ผลเตรียมลุย “หนาวทั้งแผ่นดิน”
วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้นำท้องถิ่นจาก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำโดย นายคณิต คุณโลก หรือกำนันอ้วน กำนัน ต.ทอนหงส์ นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทอนหงส์ นายพสิน บุบผัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ทอนหงส์ นายอภินันท์ แสนเสนา กำนัน ต.บ้านเกาะ นายเทียนชัย วงศ์เกสร กำนัน ต.นาเรียง นายเมตตา อนุพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.พรหมโลก นายวิเชษฐ์ โมราศิลป์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านเกาะ และผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน พร้อมตัวแทนประชาชนเข้าพบ พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อรายงานสถานการณ์ที่แท้จริงของการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ และขอความช่วยเหลือคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินกรณีที่แก๊งค้ายาบ้าในพื้นที่โกรธแค้นออกข่มขู่คุกคามเอาชีวิตผู้นำท้องถิ่น โดยมีการตั้งค่าหัวกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง สวป.สภ.พรหมคีรี ที่ร่วมกันต่อต้านขัดขวางขบวนการค้ายาเสพติด
โดยความคืบหน้า พ.ต.ท.ชูยศ จินดา นคร สว.สส.กก.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลัง 2 ชุดปฏิบัติการร่วมกับนายคณิต คุณโลก กำนัน ต.ทอนหงส์ นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านเก้ากอ ต.ทอนหงส์ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และแกนนำในชุมชนทั้ง 9 หมู่บ้านเดินทางไปสุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทอนหงส์ โดยสุ่มตรวจนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 35 คน โดยนักเรียนทั้งหมดอายุระหว่าง 12-14 ปี พบว่ามีสารเสพติดปัสสาวะสีม่วงจำนวนถึง 22 คน ในเบื้องต้นทุกคนยอมรับว่าเสพยาบ้า และยาไอซ์มาก่อน สร้างความตกตะลึงให้เจ้าหน้าที่เนื่องจากเป็นจำนวนที่สูงมากจาก 35 รายที่สามารถตรวจพบถึง 22 ราย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดิมเดินทางไปพบฝ่ายปกครองของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.พรหมคีรี เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารและฝ่ายปกครองเป็นอย่างดี และทุกฝ่ายต่างดีใจและเห็นด้วยที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างเข้มงวดกวดขัน เพราะพฤติกรรมของนักเรียนที่มั่วสุมเสพและค้ายาเสพติดในโรงเรียนเกินกำลังที่ครูและอาจารย์ในโรงเรียนจะสามารถควบคุมได้ โดยครูฝ่ายปกครองได้นำยาบ้าจำนวนมากมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเป็นยาบ้าที่ฝ่ายปกครองครูเวรประจำวันสามารถตรวจยึดได้จากนักเรียน ซึ่งบางคนสามารถยึดได้เป็นกำมือ โดยสรุปทางเจ้าหน้าที่จะร่วมกับทางโรงเรียนทำการสุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียนในโรงเรียนมัธยมดังกล่าวต่อไป
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ กล่าวว่า จากการตรวจปัสสาวะเด็กโรงเรียนขยายโอกาสชั้น ม.1 จำนวน 1 ห้อง 35 คนพบมีสารเสพติดปัสสาวะสีม่วงมากถึง 22 คน รวมทั้งข้อมูลจากผู้บริหารและฝ่ายปกครองโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งคงบ่งบอกสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดใน ต.ทอนหงส์ และในภาพรวมของ อ.พรหมคีรี ได้เป็นอย่างดี ผู้นำท้องถิ่นไม่ได้สร้างสถานการณ์ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เหมือนที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตำหนิ ที่ต้องเปิดเผยความจริงก็เพราะเป็นห่วงลูกหลาน ขอให้คิดดูว่าหากเด็กอายุแค่ 8-9 ขวบตั้งแก๊งผลิตและเสพน้ำต้มพืชกระท่อม อายุแค่ 12-13 ปี เสพยาบ้า ยาไอซ์ อนาคตในวันข้างหน้าพวกเขาจะเป็นอย่างไร จึงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้าใจเป้าหมายและความตั้งใจและผู้นำท้องถิ่นด้วย ที่สำคัญน่าจะให้การสนับสนุนร่วมมือแก้ปัญหาอย่างจริงจังแทนที่จะตำหนิติเตียน
“การที่ได้รับการสนับสนุนจาก พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.ว.นครศรีธรรมราช ส่งกำลัง นปพ.2 ชุดมาร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งหากการปฏิบัติการในครั้งนี้ยังไม่สามารถต่อต้านขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่นได้ประชุมตกลงกันแล้วว่าเมื่อมาตรการของรัฐ ไม่ว่าจะ 5 ป้องกันหรือมาตรการอื่นๆ ใช้ไม่ได้ผลรั้วมันผุพังหมดแล้วไม่หลงเหลือแม้แต่รั้วเดียว คงเหลือวิธีการสุดท้ายที่ผู้นำท้องถิ่นใน อ.พรหมคีรี ตกลงกันแล้วว่าจะร่วมดำเนินการในวิธีการดังกล่าว ซึ่งขอไม่แจ้งรายละเอียดในตอนนี้ เชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจนถึงระดับนายกรัฐมนตรี คงนั่งไม่ติดและอยู่เฉยไม่ได้ “หนาวสะท้านแผ่นดินแน่” ถึงเวลานั้นอย่ามาโทษ มาตำหนิว่ากันอีกก็แล้วกัน”
วันนี้ (27 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ผู้นำท้องถิ่นจาก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำโดย นายคณิต คุณโลก หรือกำนันอ้วน กำนัน ต.ทอนหงส์ นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.ทอนหงส์ นายพสิน บุบผัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ทอนหงส์ นายอภินันท์ แสนเสนา กำนัน ต.บ้านเกาะ นายเทียนชัย วงศ์เกสร กำนัน ต.นาเรียง นายเมตตา อนุพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.พรหมโลก นายวิเชษฐ์ โมราศิลป์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.บ้านเกาะ และผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน พร้อมตัวแทนประชาชนเข้าพบ พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพื่อรายงานสถานการณ์ที่แท้จริงของการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ และขอความช่วยเหลือคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินกรณีที่แก๊งค้ายาบ้าในพื้นที่โกรธแค้นออกข่มขู่คุกคามเอาชีวิตผู้นำท้องถิ่น โดยมีการตั้งค่าหัวกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้ง สวป.สภ.พรหมคีรี ที่ร่วมกันต่อต้านขัดขวางขบวนการค้ายาเสพติด
โดยความคืบหน้า พ.ต.ท.ชูยศ จินดา นคร สว.สส.กก.บก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช นำกำลัง 2 ชุดปฏิบัติการร่วมกับนายคณิต คุณโลก กำนัน ต.ทอนหงส์ นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 บ้านเก้ากอ ต.ทอนหงส์ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และแกนนำในชุมชนทั้ง 9 หมู่บ้านเดินทางไปสุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทอนหงส์ โดยสุ่มตรวจนักเรียนชั้น ม.1 จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 35 คน โดยนักเรียนทั้งหมดอายุระหว่าง 12-14 ปี พบว่ามีสารเสพติดปัสสาวะสีม่วงจำนวนถึง 22 คน ในเบื้องต้นทุกคนยอมรับว่าเสพยาบ้า และยาไอซ์มาก่อน สร้างความตกตะลึงให้เจ้าหน้าที่เนื่องจากเป็นจำนวนที่สูงมากจาก 35 รายที่สามารถตรวจพบถึง 22 ราย
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเดิมเดินทางไปพบฝ่ายปกครองของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งใน อ.พรหมคีรี เพื่อขอข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารและฝ่ายปกครองเป็นอย่างดี และทุกฝ่ายต่างดีใจและเห็นด้วยที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการเชิงรุกอย่างเข้มงวดกวดขัน เพราะพฤติกรรมของนักเรียนที่มั่วสุมเสพและค้ายาเสพติดในโรงเรียนเกินกำลังที่ครูและอาจารย์ในโรงเรียนจะสามารถควบคุมได้ โดยครูฝ่ายปกครองได้นำยาบ้าจำนวนมากมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเป็นยาบ้าที่ฝ่ายปกครองครูเวรประจำวันสามารถตรวจยึดได้จากนักเรียน ซึ่งบางคนสามารถยึดได้เป็นกำมือ โดยสรุปทางเจ้าหน้าที่จะร่วมกับทางโรงเรียนทำการสุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียนในโรงเรียนมัธยมดังกล่าวต่อไป
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ กล่าวว่า จากการตรวจปัสสาวะเด็กโรงเรียนขยายโอกาสชั้น ม.1 จำนวน 1 ห้อง 35 คนพบมีสารเสพติดปัสสาวะสีม่วงมากถึง 22 คน รวมทั้งข้อมูลจากผู้บริหารและฝ่ายปกครองโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งคงบ่งบอกสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดใน ต.ทอนหงส์ และในภาพรวมของ อ.พรหมคีรี ได้เป็นอย่างดี ผู้นำท้องถิ่นไม่ได้สร้างสถานการณ์ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เหมือนที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ตำหนิ ที่ต้องเปิดเผยความจริงก็เพราะเป็นห่วงลูกหลาน ขอให้คิดดูว่าหากเด็กอายุแค่ 8-9 ขวบตั้งแก๊งผลิตและเสพน้ำต้มพืชกระท่อม อายุแค่ 12-13 ปี เสพยาบ้า ยาไอซ์ อนาคตในวันข้างหน้าพวกเขาจะเป็นอย่างไร จึงอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้าใจเป้าหมายและความตั้งใจและผู้นำท้องถิ่นด้วย ที่สำคัญน่าจะให้การสนับสนุนร่วมมือแก้ปัญหาอย่างจริงจังแทนที่จะตำหนิติเตียน
“การที่ได้รับการสนับสนุนจาก พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.ว.นครศรีธรรมราช ส่งกำลัง นปพ.2 ชุดมาร่วมแก้ไขปัญหา ซึ่งหากการปฏิบัติการในครั้งนี้ยังไม่สามารถต่อต้านขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่นได้ประชุมตกลงกันแล้วว่าเมื่อมาตรการของรัฐ ไม่ว่าจะ 5 ป้องกันหรือมาตรการอื่นๆ ใช้ไม่ได้ผลรั้วมันผุพังหมดแล้วไม่หลงเหลือแม้แต่รั้วเดียว คงเหลือวิธีการสุดท้ายที่ผู้นำท้องถิ่นใน อ.พรหมคีรี ตกลงกันแล้วว่าจะร่วมดำเนินการในวิธีการดังกล่าว ซึ่งขอไม่แจ้งรายละเอียดในตอนนี้ เชื่อว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจนถึงระดับนายกรัฐมนตรี คงนั่งไม่ติดและอยู่เฉยไม่ได้ “หนาวสะท้านแผ่นดินแน่” ถึงเวลานั้นอย่ามาโทษ มาตำหนิว่ากันอีกก็แล้วกัน”