พระสงฆ์ศรีสะเกษช่วยเหลือ ปชช.อพยพหนีสู้รบ “เขาวิหาร” - คุณยายร้องโจรงัดบ้านกวาดเรียบ

ศรีสะเกษ- พระสงฆ์ศรีสะเกษ นำเครื่องอุปโภคบริโภคข้าวสารอาหารแห้งและผ้าห่มมาแจกจ่ายช่วยเหลือปชช.อพยพหนีภัยสู้รบ“เขาพระวิหาร”พร้อมตรวจเยี่ยมให้ธรรมะเตือนใจ ขณะคุณยายวัย 70 ปีอุ้มลูกสุนัขร้องเรียนว่า โดนงัดบ้านขโมยทรัพย์สินหมดตัว แถมขันเงินสินสอดเก็บไว้กว่า 50 ปี ถูกลักเอาไป


วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.30 น.คืนที่ผ่านมา ที่บริเวณศูนย์อพยพชั่วคราวหนีภัยสู้รบชายแดนเขาพระวิหาร ที่หอประชุมที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พระราชธรรมสารสุธี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำคณะสงฆ์จ.ศรีสะเกษ จำนวน 10 รูป นำเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้ง ผ้าห่มและน้ำดื่ม มาบริจาคให้แก่ชาวบ้านที่อพยพหนีภัยการสู้รบมาจากชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน ต.เสาธงชัย ต.โนนสำราญ และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 15,000 คน กระจายอยู่ตามศูนย์อพยพทั้ง 21 แห่งของ จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งได้เยี่ยมให้กำลังใจและให้ธรรมะเตือนใจแก่ชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามด้วย

ขณะที่ ดร.สุชีราภรณ์ ธุวานนท์ อธิการบดีวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ได้มอบให้ นายชัยวุฒิ เทโพธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหารรักษาการคณบดีคณะรัฐศาสตร์ นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวนมากมาบริจาคให้ชาวบ้าน พร้อมทั้งได้จัดชุดพยาบาลให้การช่วยเหลือดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพแห่งนี้ด้วย

พระราชธรรมสารสุธี รองเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า อาตมาได้รับมอบหมายจาก พระราชกิตติรังสี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้นำคณะสงฆ์ของ จ.ศรีสะเกษ นำเอาเครื่องอุปโภคบริโภค มาบริจาคให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามการสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาที่ชายแดนเขาพระวิหาร และได้ให้พระสงฆ์ทุกรูปให้ธรรมะเพื่อเป็นการรักษาบาดแผลทางใจที่ต้องตื่นตระหนกทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพแห่งนี้

ส่วนวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ ได้ให้คณะพยาบาลศาสตร์มาให้การรักษาพยาบาลการเจ็บป่วยของประชาชนเพื่อเป็นการรักษาทางกายให้กับประชาชนที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน นางฉวีวรรณ บุญเสนอ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 265 ม.12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนว่า ตนอาศัยอยู่เพียงตามลำพังกับสุนัข 1 ตัว และได้ทิ้งบ้านเอาไว้แล้วอพยพมาอยู่ที่ศูนย์อพยพแห่งนี้

แต่ปรากฏว่าจากการที่เพื่อนบ้านของตนได้กลับไปตรวจสอบดูแลบ้านที่บ้านภูมิซรอล ได้กลับมาแจ้งให้ทราบว่า บ้านของตนได้ถูกโจรงัดบ้าน และทรัพย์สินภายในบ้านที่มีค่าหลายรายการได้สูญหายไป แต่ว่าสิ่งที่หวงแหนมากที่สุดคือ ขันเงินแท้ ซึ่งเป็นสินสอดในวันแต่งงานของตนกับสามีที่เก็บรักษาเอาไว้นานกว่า 50 ปี ได้ถูกโจรลักเอาไปรวมกับทรัพย์สินอื่น

“ทำให้ขณะนี้ต้องหมดตัวแล้ว ไม่เหลืออะไรอีกเลย จึงได้มาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อขอให้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามนำเอาทรัพย์สินของตนกลับคืนมาให้ด้วย” นางฉวีวรรณกล่าว