xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยวัฒน์” ลั่น 2 มาตรการช่วย 2 ไทยพ้นคุกเขมร - จ่อฟ้องศาลระหว่าง ปท.- ปลุก ปชช.ฮือขับไล่ รบ.“มาร์ค”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ไชยวัฒน์” ชี้ใช้ 2 มาตรการ “ตุลาการภิวัฒน์-ประชาภิวัฒน์” ช่วย “วีระ-ราตรี” พ้นคุกเขมร เตรียมยื่นอุทธรณ์ และขอประกันตัวไปพร้อมกัน พร้อมเตรียมฟ้องศาลระหว่างประเทศ เหตุเขมรเข้ามาลักพาตัว 7 คนไทยในราชอาณาจักรไทย และฟ้องรัฐบาลไทย พร้อมปลุกคนไทยลุกฮือขับไล่ “รัฐบาลอภิสิทธิ์” เชื่อ รัฐบาลใหม่ช่วย 2 คนไทยกลับประเทศได้ใน 7 วัน ระบุ หากปล่อย “มาร์ค” อ่อนแออยู่ยาวทำเกิดสงครามไทย-กัมพูชา แน่

วันนี้ (3 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่สถานีวิทยุชุมชนสมัชชา เรดิโอ FM 100.75 MHz อาคารพาณิชย์เลขที่ 16-3 ถ.มนัส ฝั่งตรงข้ามโรงแรมจอมสุรางค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ จ.นครราชสีมา ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการประกาศชุมนุมใหญ่เพื่อกดดันให้รัฐบาลช่วยเหลือ 2 คนไทยที่ถูกกัมพูชาจับตัวไปกลับมาให้ได้ภายใน 3 วันอย่างไม่มีเงื่อนไข ว่า เป็นการประกาศของ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ประกาศใช้วิธีการเช่นนั้น

ส่วนตนเคลื่อนไหว ในนามเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ แนวทางของตนตอนนี้เกี่ยวกับ นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ติดคุกกัมพูชา นั้น จะใช้ 2 มาตรการคู่กันไป

มาตรการที่ 1 เรียกว่า ตุลาการภิวัฒน์ เป็นการใช้กลไกทางตุลาการ ดังนั้น เราจึงยื่นคำร้องขออุทธรณ์ต่อศาลกัมพูชา เหตุผลที่ยื่นอุทธรณ์ คือว่า การพิจารณาในศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะไม่ใช่เขตอำนาจศาลกัมพูชา รวมทั้งบรรยากาศการพิจารณาคดีนั้นศาลกัมพูชาละเมิด แม้แต่สิทธิมนุษยชนขั้นต้น นายวีระ ขอเปลี่ยนล่ามเพื่อสื่อภาษาตรงถึงศาลให้เห็นถึงความจริง แต่ศาลปฏิเสธ และหลักฐานเอกสารข้อมูลที่เราเตรียมไปเสนอต่อศาลกัมพูชาในฐานะผู้ถูกกล่าวหา ศาลกัมพูชาก็ปฏิเสธ คือ ศาลกัมพูชาใช้ข้อมูลด้านเดียวจากทางด้านกัมพูชาพิพากษา นายวีระกับ น.ส.ราตรี

ดังนั้น เราจึงจองยื่นอุทธรณ์และจะยื่นประกันตัวไปพร้อมกัน แต่เราจะฟ้องร้องต่อศาลระหว่างประเทศ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันเข้าข่ายทหารกัมพูชาลักพาตัว นายวีระ และคณะไปจากราชอาณาจักรไทย คงจะต้องฟ้องทั้งประเด็นอาญา และเรียกค่าเสียหายให้กับนายวีระ และ คณะด้วย ขณะนี้คณะที่ปรึกษากฎหมายเครือข่าย กำลังเตรียมคำฟ้องอยู่ เสร็จเมื่อไหร่เราจะแถลงอีกครั้ง

ส่วนการฟ้องต่อศาลไทยต่อรัฐบาลไทย ก็อยู่ในประเด็นที่จะต้องดำเนินการด้วย เพราะการกระทำของรัฐบาลเข้าข่ายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพราะรัฐบาลประกาศว่า ยึดถือเอ็มโอยู 2543 ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศกระทบต่ออธิปไตยของดินแดนไทย รัฐบาลไม่เคยคิดจะเอาเข้าให้รัฐสภาเห็นชอบ ล่าสุด กลับคิดถึงแต่จะแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งเรากำลังตามอยู่ ว่า ถ้าการยกมือของสมาชิกรัฐสภาในวาระที่ 3 ผ่านการแก้มาตรา 190 สมาชิกรัฐสภาก็จะกระทำความผิดสำเร็จในการสมคบกับรัฐบาล เพื่อให้เกิดผลการแบ่งแยกราชอาณาจักร นี่คือ มาตรการตุลาการภิวัฒน์ ซึ่งมาตรการเหล่านี้กำหนดเงื่อนไขเวลาไม่ได้เลย เพราะไม่สามารถกำหนดได้ว่า ศาลแต่ละระดับไม่ว่า ศาลในกัมพูชา ศาลประเทศไทยหรือศาลระหว่างประเทศจะมีข้อยุติเมื่อไหร่

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการที่ 2 ที่จะเดินคู่กัน คือ “ประชาภิวัฒน์” ที่เราจะพยายามสร้างความเข้าใจและความจริงให้ถึงพี่น้องคนไทย เพื่อให้ลุกขึ้นมาแสดงตนเชิงปริมาณ เพื่อขับไล่รัฐบาล เรามั่นใจว่า ขับไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปเมื่อไหร่ รัฐบาลใหม่จะสามารถนำ นายวีระ กลับคืนประเทศไทยได้ภายใน 7 วัน ด้วยมาตรการต่างๆ ที่จะต้องเดินคู่กันไป ได้แก่ มาตรการทางการทูต, มาตรการทางด้านเศรษฐกิจ และมาตรการทางด้านการทหาร ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่ใช้เลย

ฉะนั้น ที่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การใช้มาตรการตามข้อเรียกร้องของภาคประชาชนจะก่อให้เกิดสงครามนั้น แต่เรากลับเห็นว่า ถ้าปล่อยให้ นายอภิสิทธิ์ ลากยาวไปนั่นแหละจะเกิดสงคราม เพราะใช้มาตรการอ่อนแอจนคนไทยเริ่มขุ่นข้องหมองใจมาก ถ้าถึงวันนั้นอารมณ์คนไทยขึ้นมาในระดับที่จะลุกฮือขึ้นมา คนที่ที่รับผิดชอบอำนาจรัฐก็ต้องตัดสินใจประกาศสงคราม เพื่อดับอารมณ์พี่น้องประชาชน อันนั้นแหละจะเป็นเรื่องที่เกิดสงครามเพราะนายอภิสิทธิ์
กำลังโหลดความคิดเห็น