ตาก - กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง อนุมัติงบกว่า 60 ล้าน ต่อยอดตลาดเนื้อโคขุนตาก แยกเป็นงบพัฒนาแปลงหญ้า 30 ล. และสร้างโรงตัดแต่ง ห้องเย็น เนื้อโคขุน 30 ล้านบาทเศษ
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ในการประชุมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัด 5 จังหวัดภาคเหนือล่าง(ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-และอุตรดิตถ์)ได้มีการอนุมัติงบประมาณ ปี 2555 ให้กับแผนการส่งเสริมการเลี้ยงโคพันธุ์เนื้อ จังหวัดตากจำนวน 2 รายการ คือ 1.พัฒนาแปลงปลูกหญ้า ในที่ดิน นพค. ที่ตำบลตากออก อ.บ้านตาก ในพื้นที่ 50 ไร่ มูลค่า 30 ล้านบาท และ 2. สร้างโรงตัดแต่ง และห้องเย็น ที่ด่านกันสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ตาก ตรงข้ามจังหวัดทหารบกตาก ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก มูลค่า 30,140,000 บาทเพื่อเป็นการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ และโคขุนพันธุ์ตาก ที่พัฒนาการเลี้ยงในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือล่าง และมีการรับซื้อในราคาประกัน เพื่อส่งเนื้อโคขุน ไปยังตลาดโคขุน โคเนื้อทั่วประเทศ และขายส่งไปยังต่างประเทศในอนาคต
ผู้ว่าราชการจังหวัดตากบอกว่า ตากเป็นแหล่งวิจัยโคพันธุ์ตาก โดยศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก และมีปศุสัตว์จังหวัดให้การส่งเสริมการเลี้ยงโคขุน 4 ชนิดด้วยกันคือ โคพันธุ์ตาก โคพันธุ์พื้นเมือง โคอินทรีย์ และพันธุ์ซาโรเลย์ เป็นตลาดเลี้ยงโคใหญ่ของประเทศ การมีแปลงหญ้า การผลิตอาหาร และสร้างโรงเชือด โรงตัดแต่งเนื้อโค เพื่อส่งเสริมการตลาดจะทำให้เกษตรกรในพื้นที่ตาก และกลุ่มจังหวัดเหนือล่าง เพิ่มมูลค่าการเลี้ยงโคเนื้อ โคขุนได้มากขึ้น
“วันนี้ เราพูดได้เลย เรามีเนื้อโคขุน มีคุณภาพเป็นอันดับ 1 ของประเทศ วันนี้ ร้านจำหน่ายสเต็ก ปิ้ง ย่าง รูปแบบญี่ปุ่น เกาหลี ไม่พอส่งขาย การสร้างโรงตัดแต่ง และห้องเย็น จะทำให้เราเพิ่มผลผลิตการตำหน่ายได้มากขึ้น” นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า อาหารกับการท่องเที่ยว ต้องเป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน เนื้อโคขุนตากวันนี้ ผู้บริโภคได้ให้ความสนใจมาก หลังจากที่จังหวัด ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ส่วนกลาง และมีตลาดเนื้อโคขุน ใน กรุงเทพฯ นนทบุรี ขอนแก่น หนองคาย เชียงใหม่ เชียงราย และอีกหลาย ๆ จังหวัดติดต่อมาเพื่อร่วมโครงการ รวมทั้งในพื้นที่จังหวัดตากเองด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการค้า-ขายเนื้อโคขุน ต่างประสบปัญหาเรื่องโรงตัดแต่ง และห้องเย็น เพราะการบ่มเนื้อโคขุนให้มีคุณภาพต้องบ่มในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ ลบ 21 องศา นานถึง 14-21 วัน หากในอนาคตเรามีโรงตัดแต่ง และห้องเย็นเพิ่มขึ้น ทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มจังหวัด และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม จะส่งเสริมการขายและมีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคในตาก และกลุ่มจังหวัดเหนือล่าง มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ในการประชุมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว กลุ่มจังหวัด 5 จังหวัดภาคเหนือล่าง(ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-และอุตรดิตถ์)ได้มีการอนุมัติงบประมาณ ปี 2555 ให้กับแผนการส่งเสริมการเลี้ยงโคพันธุ์เนื้อ จังหวัดตากจำนวน 2 รายการ คือ 1.พัฒนาแปลงปลูกหญ้า ในที่ดิน นพค. ที่ตำบลตากออก อ.บ้านตาก ในพื้นที่ 50 ไร่ มูลค่า 30 ล้านบาท และ 2. สร้างโรงตัดแต่ง และห้องเย็น ที่ด่านกันสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ตาก ตรงข้ามจังหวัดทหารบกตาก ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก มูลค่า 30,140,000 บาทเพื่อเป็นการสนับสนุนการเลี้ยงโคเนื้อ และโคขุนพันธุ์ตาก ที่พัฒนาการเลี้ยงในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือล่าง และมีการรับซื้อในราคาประกัน เพื่อส่งเนื้อโคขุน ไปยังตลาดโคขุน โคเนื้อทั่วประเทศ และขายส่งไปยังต่างประเทศในอนาคต
ผู้ว่าราชการจังหวัดตากบอกว่า ตากเป็นแหล่งวิจัยโคพันธุ์ตาก โดยศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก และมีปศุสัตว์จังหวัดให้การส่งเสริมการเลี้ยงโคขุน 4 ชนิดด้วยกันคือ โคพันธุ์ตาก โคพันธุ์พื้นเมือง โคอินทรีย์ และพันธุ์ซาโรเลย์ เป็นตลาดเลี้ยงโคใหญ่ของประเทศ การมีแปลงหญ้า การผลิตอาหาร และสร้างโรงเชือด โรงตัดแต่งเนื้อโค เพื่อส่งเสริมการตลาดจะทำให้เกษตรกรในพื้นที่ตาก และกลุ่มจังหวัดเหนือล่าง เพิ่มมูลค่าการเลี้ยงโคเนื้อ โคขุนได้มากขึ้น
“วันนี้ เราพูดได้เลย เรามีเนื้อโคขุน มีคุณภาพเป็นอันดับ 1 ของประเทศ วันนี้ ร้านจำหน่ายสเต็ก ปิ้ง ย่าง รูปแบบญี่ปุ่น เกาหลี ไม่พอส่งขาย การสร้างโรงตัดแต่ง และห้องเย็น จะทำให้เราเพิ่มผลผลิตการตำหน่ายได้มากขึ้น” นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.ตาก กล่าว
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวต่อว่า อาหารกับการท่องเที่ยว ต้องเป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน เนื้อโคขุนตากวันนี้ ผู้บริโภคได้ให้ความสนใจมาก หลังจากที่จังหวัด ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อสิ่งพิมพ์ส่วนกลาง และมีตลาดเนื้อโคขุน ใน กรุงเทพฯ นนทบุรี ขอนแก่น หนองคาย เชียงใหม่ เชียงราย และอีกหลาย ๆ จังหวัดติดต่อมาเพื่อร่วมโครงการ รวมทั้งในพื้นที่จังหวัดตากเองด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการค้า-ขายเนื้อโคขุน ต่างประสบปัญหาเรื่องโรงตัดแต่ง และห้องเย็น เพราะการบ่มเนื้อโคขุนให้มีคุณภาพต้องบ่มในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ ลบ 21 องศา นานถึง 14-21 วัน หากในอนาคตเรามีโรงตัดแต่ง และห้องเย็นเพิ่มขึ้น ทั้งที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มจังหวัด และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม จะส่งเสริมการขายและมีเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคในตาก และกลุ่มจังหวัดเหนือล่าง มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น
