xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.ทองผาภูมินำนักประดาน้ำค้นหานักท่องเที่ยวสาวหลังแพแตกกลางห้วยน้ำโจน ทุ่งใหญ่ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาววรทิกา พรหมณะ
กาญจนบุรี - ผกก.ทองผาภูมิ นำนักประดาน้ำ พร้อมเรือยางออกค้นหานักท่องเที่ยวสาว หลังจากต่อแพไม้ไผ่ล่องห้วยน้ำโจนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ฯ ก่อนพลาดกระแทกโขดหินจนแพแตกหายตัวไปตามกระแสน้ำอย่างไร้ร่องรอยนานกว่า 10 วัน ส่วนสาเหตุเพื่อนแจ้งความเท็จ หวั่น จนท.ป่าไม้เดือดร้อน

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (27 ม.ค.) พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ รอดมา ผกก.สภ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและนักประดาน้ำ พร้อมเรือยาง เข้าพื้นที่ห้วยน้ำโจน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นจุด น.ส.วรทิกา พรมณะ หรือน้องนุ่น อายุ 29 ปี พลัดตกแพไม้ไผ่ที่ทำขึ้นเองเพื่อล่องในลำห้วยน้ำโจนกับเพื่อนชายอีก 4 คน ก่อนพลาดแพไหลไปตามน้ำกระแทกกับโขดหินจนแพแตก เป็นเหตุให้ น.ส.วรทิกาพลัดตกแพหายไปกับกระแสน้ำ

ส่วนเพื่อนชายอีก 4 คนสามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งเอาตัวรอดมาได้ ก่อนเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ทองผาภูมิ เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 11 วัน เจ้าหน้าที่ที่ออกติดตามยังไม่พบตัวแต่อย่างใด

พ.ต.อ.บุญฤทธิ์ รอดมา ผกก.สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนทราบว่าคณะของ น.ส.วรฐิกา หรือนุ่น พรมณะ ที่หายตัวไปตามกระแสน้ำในครั้งนี้ได้เดินทางมาพร้อมกันทั้งหมด 21 คน ซึ่งทั้งหมดได้เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

จากนั้น น.ส.วรทิกาพร้อมกับเพื่อนชายอีก 4 คนได้ไปล่องแพที่บริเวณห้วยน้ำโจน ขณะกำลังล่องแพอยู่ได้เกิดกระแสน้ำไหลเชี่ยวอย่างแรง ทำให้แพซึ่งเป็นไม้ไผ่กระแทกเข้ากับโขดหินอย่างแรงเป็นเหตุให้ น.ส.วรทิกา พลัดตกจากแพพร้อมกับเพื่อนชายอีก 1 คน ซึ่งเพื่อนชายอีก 2 คนที่อยู่บนแพสามารถช่วยชีวิตเพื่อนชายเอาไว้ได้

ส่วน น.ส.วรทิกาได้จมหายไปกับกระแสน้ำที่กำลังไหลเชี่ยว และเพื่อนชายทั้ง 4 คนได้พยายามออกตามหาร่างของ น.ส.วรทิกา จนถึงค่ำ แต่ก็ไม่พบ ดังนั้นจึงตัดสินใจเดินทางกลับเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ด่านทราบเพื่อขอความช่วยเหลือในการค้นหา

จากนั้นได้ไปแจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับผู้ใหญ่บ้านบ้านคลิตี้ทราบ ก่อนที่ทั้ง 4 รายจะเดินทางมาแจ้งความต่อ พ.ต.ท.มนัส จำเรียง พงส.สบ.3 สภ.ทองผาภูมิทราบในภายหลัง

ทั้งนี้ เพื่อนของ น.ส.วรทิกา แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่า น.ส.วรทิกาได้ลงเล่นน้ำที่ห้วยน้ำโจนแล้วได้จมน้ำหายไปโดยไม่บอกกับพนักงานสอบสวนตามความเป็นจริงว่าเหตุเกิดเพราะสาเหตุใด หลังจากชายทั้ง 4 แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งสังเกตได้ว่าจำนวน 1 ใน 4 ที่มาแจ้งความนั้น พบว่าที่บริเวณใบหน้านั้นมีบาดแผล พนักงานสอบสวนจึงสังเกตได้ว่าสาเหตุที่ น.ส.วรทิกาจมน้ำในครั้งนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดาตามที่เพื่อนชายทั้ง 4 คนแจ้งความเอาไว้

ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.มนัส คอยสังเกตพฤติการณ์ของบุคคลทั้ง 4 รายเอาไว้ จากนั้นตนและเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยนักประดาน้ำรวม 8 คนได้เข้าพื้นที่เพื่อติดตามค้นหา น.ส.วรทิกา ตั้งแต่เช้าวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมาแต่ก็ไม่พบ

พ.ต.อ.บุญฤทธิ์เปิดเผยต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดค้นหาได้กระจายกำลังกันออกค้นหากันอย่างเต็มที่ และผ่านหลายวัน โดยการค้นหานั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากจุดที่ น.ส.วรทิกาจมหายไปนั้นมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวมาก และเป็นจุดน้ำวน ซึ่งน้ำได้ดูดเอาร่างของ น.ส.วรทิกาจมหายไป

อย่างไรก็ตาม ระหว่างทำการค้นหาอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทราบภายหลังว่าเหตุที่ น.ส.วรทิกา จมหายไปนั้นเหตุเกิดมาจากบุคคลทั้ง 4 พร้อมด้วย น.ส.วรทิกา รวม 5 คนได้ต่อแพทำด้วยไม้ไผ่ จากนั้นได้ล่องแพที่ห้วยน้ำโจนที่มีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและได้เกิดอุบัติเหตุแพหลังดังกล่าวไปกระแทกกับโขดหินเข้าอย่างแรงเป็นเหตุให้แพแตก และยังมีเพื่อนชายอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บไหปลาร้าหักถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯหลังเกิดเหตุ

ส่วนแฟนของ น.ส.วรทิกา ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและเป็นคนเดินทางไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าแฟนสาวไปเล่นน้ำแล้วจมหายไป ซึ่งถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องหลงประเด็นไปด้วย

จากการสอบสวนกลุ่มนักท่องเที่ยว จึงทราบถึงสาเหตุที่ น.ส.วรทิกาจมน้ำในครั้งนี้ และสาเหตุที่ไม่บอกความจริงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวเกรงว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะได้รับความเดือดร้อนที่ปล่อยให้มีการล่องแพจนเกิดอุบัติเหตุจึงปิดบังความจริงเอาไว้ โดยขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแล้ว 4-5 ปาก และกำลังจะเรียกกลุ่มนักท่องเที่ยวมาสอบปากคำเพิ่มเติมในเร็ววันนี้

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ละเอียดมากขึ้นและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นเหตุประมาทร่วมกันหรือไม่ หากพบว่าประมาทร่วมกันกลุ่มที่อยู่ในแพทั้งหมดก็ไม่มีความผิด แต่หากมีการชักชวน หรือบังคับให้ น.ส.วรทิกาลงไปล่องแพโดยไม่เต็มใจ กลุ่มที่อยู่ในแพก็จะมีความผิด จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.มนัส จำเรียง ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งหมด 21 คนเดินทางมาจาก กทม.และได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ จากจังหวัดราชบุรีให้เข้าไปเที่ยวภายในอุทยานอย่างถูกกฎหมาย และได้ติดต่อกับผู้ชำนาญเส้นทางให้พาเข้าไปเที่ยวในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่งรวมแล้ว 21 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้พยายามออกค้นหาตัว น.ส.วรทิกากันอย่างเต็มที่ และได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้ช่วยติดตามเพื่อค้นหาหลักฐานที่อาจจะพบเห็นบริเวณริน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือกางเกง เพื่อเป็นแนวทางในการค้นหาอีกทางหนึ่ง

ส่วนความคืบหน้าในการสอบปากคำนักท่องเที่ยว ได้ประสานขอความร่วมมือไปแล้ว แต่ได้รับการผัดผ่อนเวลาอยู่

พ.ต.ท.นพดล ปิ่นนิล รอง ผกก.สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยกรณีมีนักท่องเที่ยวหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.54 ที่บริเวณน้ำโจน ทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรีว่า ได้มีนักท่องเที่ยวน้ำโจน 21 คนมาตั้งแคมป์บริเวณน้ำโจน แล้วออกไปล่องแพกับเพื่อนๆ โดยมีนายเจษฎา นายเชษฐ์ นายอ้วน และ น.ส.วรทิกา เกิดพลัดตกแพลงไปในน้ำสองคน คือ นายเจษฎา กับ น.ส.วรทิกา พรมณะ ที่ตกลงไป ซึ่งนายอ้วน ช่วยนายเจษฎา ไว้ได้แต่ไม่สามารถช่วย น.ส.วรทิกาได้ เพื่อนๆ จึงได้ออกมาแจ้งความว่ามีคนหายเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยนักประดาน้ำ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ร่วมกันค้นหาและลงน้ำงมใหม่อีกครั้งบริเวณที่ตกก็ไม่พบ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นน้ำวน

ล่าสุด วันนี้บิดาและมารดาได้นิมนต์พระไปทำพิธีเนื่องจากลูกสาวได้เข้าฝันบอกบิดาว่าตนเองได้ตกน้ำจริงๆ ขณะนี้ร่างติดอยู่ร่องหินซึ่งพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดเพื่อนๆ ที่ไปเที่ยวด้วยกันมาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม
สภาพน้ำโจน ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร ที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว

กำลังโหลดความคิดเห็น