ครู-นร.“ภัทรบพิตร”ฮือต้านผู้ว่าฯเชลียร์“ยี้ห้อย” -เปลี่ยนชื่อร.ร.เป็น“สวนกุหลาบฯ บุรีรัมย์”

บุรีรัมย์ - ครู -นร. -ผู้ปกครอง และศิษย์เก่าร.ร.ภัทรบพิตร กว่า 1,000 คน เดินเท้าไกลกว่า 5 กม.บุกชุมนุมประท้วงหน้าศาลากลางฯ ค้านผู้ว่าฯหมกเม็ดแจ้งเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น“สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” ตอกแค่ต้องการเชลียร์ “ยี้ห้อย” ศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ชี้ชื่อเดิมเป็นมงคลดีแปลว่า “ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดิน” อันหมายถึง “ในหลวง” ทำไมต้องเปลี่ยน รองผู้ว่าฯ รับเรื่องแจงขั้นตอนยังไม่ยุติ พร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมหาแนวแก้ไขด่วน

วันนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะครู นักเรียน โรงเรียนภัทรบพิตร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 1,000 คน ได้พากันเดินเท้าจากโรงเรียน เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร (กม.) พร้อมถือป้ายข้อความต่างๆ อาทิ “ภัทรบพิตรชื่อนี้เป็นมงคล หากใครลบหลู่ ขอให้มีอันเป็นไป” มาชุมนุมประท้วงที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เห็นด้วยกับทางจังหวัดฯ หลังมีหนังสือ ลงนามโดย นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.2554 แจ้งไปยัง ผู้อำนวยการโรงเรียนภัทรบพิตร

ระบุว่า ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาเห็นสมควรให้โรงเรียนภัทรบพิตร ดำเนินการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อการศึกษาของจังหวัดฯอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถพัฒนาด้านวิชาการ บุคลากร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ เป็นเครือข่ายร่วมกัน

ทำให้คณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง และศิษย์เก่าของโรงเรียนส่วนใหญ่ต่างไม่พอใจ พากันมาชุมนุมยื่นหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เนื่องจากไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะเหตุใด จึงเปลี่ยนชื่อโรงเรียน “ภัทรบพิตร” เป็นโรงเรียน “สวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์” อ้างเพียงว่าเพื่อเพื่อให้สามารถพัฒนาด้านวิชาการ บุคลากร ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ โดยมีโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ เป็นเครือข่ายร่วมกัน ซึ่งเมื่อพิจารณาไตร่ตรองอย่างแท้จริงแล้ว ไม่ว่าทราบเหตุผลที่แท้จริง คืออะไร

ทั้งนี้ เพราะชื่อ “ภัทรบพิตร” มาจาก “พระสุภัทรบพิตร” พระพุทธรูปองค์ใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์ บนยอดเขากระโดง ซึ่งแปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน อันหมายถึง องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ของเรา ซึ่งชื่อนี้เป็นมงคลยิ่งนัก ทั้งความหมายและที่มา หากจะเปลี่ยนชื่อโรงเรียน “ภัทรบพิตร” ก็เปรียบเสมือนเปลี่ยนชื่อ “พระสุภัทรบพิตร” บนเขากระโดง

อีกทั้ง ยังเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดบุรีรัมย์ มีตำนานมายาวนาน มีอายุกว่า 30 ปี มีลูกศิษย์ ลูกหามากมาย ผลิตเยาวชนของชาติมหาศาล คนเหล่านี้จะบอกลูกหลาน ในอนาคตอย่างไร ว่าเรียนจบมาจากโรงเรียนอะไร การจะเปลี่ยนแปลงชื่อจะทำเพียงคนกลุ่มเดียวที่อยู่รอบข้างๆ โรงเรียนได้อย่างไร ศักดิ์ศรีการเป็นโรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดบุรีรัมย์ สู้ศักดิ์ศรีความเป็น “สวนกุหลาบ” ไม่ได้ตรงไหน

ครู บุคลากรโรงเรียนภัทรบพิตร จากอดีตถึงปัจจุบัน ไม่มีความสามรถพัฒนาการสอน การจัดกิจกรรมให้นักเรียนเชียวหรือ การเป็นเครือข่ายกัน จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อโรงเรียนหรือไม่ ทำไมไม่ให้ “สวนกุหลาบ” เปลี่ยนเป็น “ภัทรบพิตร” บ้าง จึงพากันเดินทางมาประท้วงการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน พร้อมยืนยันจะใช้เดิมคือ “ภัทรบพิตร” ตลอดไป

น.ส.ดวงดาว ทองคำวัล อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 กล่าวว่า เรียนที่โรงเรียนภัทรบพิตร มา 6 ปี มีความผูกพัน และภูมิใจที่เป็นโรงเรียนภัทรบพิตร เพราะมีองค์พระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่ บนยอดเขากระโดง เป็นที่สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของพวกเรา และชื่อนี้ก็เป็นสิริมงคลกับโรงเรียนมายาวนานกว่า 30 ปี พวกเราไม่เห็นด้วยหากมีการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน เหมือนเป็นการย่ำยีคนบุรีรัมย์ ทำไมต้องเปลี่ยนชื่อด้วย อยากให้ทางจังหวัดมีการทบทวนในเรื่องดังกล่าว และยังคงใช้ชื่อ ภัทรบพิตร ต่อไป

ด้านศิษย์เก่า โรงเรียนภัทรบพิตร รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนมีความผูกพันกับโรงเรียนแห่งนี้มายาวนาน ตั้งแต่สมัยเรียนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว การจะมาเปลี่ยนชื่อเพราะคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด เห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่ทราบว่าเป็นแนวคิดใคร อีกทั้งชื่อโรงเรียนก็มีความหมาย และเป็นสิริมงคล ตนเข้าใจว่าคนที่ต้องการให้เปลี่ยนชื่อมีเจตนาดี ต้องการทัดเทียมโรงเรียนใหญ่ และโรงเรียนดังในกรุงเทพฯ แต่การจะมาเปลี่ยนความรู้สึกของคนที่มีความผูกพันและฝังรากลึกมานานมันยาก

จึงอยากให้ทางจังหวัดได้ทบทวนในเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เพิ่งมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯไม่ถึง 1 เดือน จะมาทราบเรื่องราวต่างๆ เท่าคนบุรีรัมย์ ได้อย่างไร ทำเพื่อเอาใจใครบางคนหรือไม่ โดยเฉพาะ นายเนวิน ชิดชอบ ศิษย์เก่าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่แห่งบุรีรัมย์

ต่อมา นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงมารับหนังสือคัดค้านการเปลี่ยนชื่อโรงเรียน จากตัวแทนนักเรียน เพื่อรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ทราบ และแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ทำให้คณะครู นักเรียน พอใจ จึงสลายตัวกลับในเวลาต่อมา

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางจังหวัดฯได้รับหนังสือร้องคัดค้านการเปลี่ยนชื่อ จากนั้นประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 และโรงเรียนภัทรบพิตรทราบ เพราะการเปลี่ยนชื่อเป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นว่าถ้าเปลี่ยนไปแล้วจะเป็นประโยชน์หรือไม่อย่างไร กระบวนการเปลี่ยนจะดำเนินการเปลี่ยนทันทีไม่ได้ ต้องมีการสอบถามความคิดเห็น ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องของโรงเรียน มีความคิดเห็นและมีความประสงค์อย่างไร แล้วนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณา

เจตนาของทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 มีความปรารถนาดีที่อยากจะพัฒนาการศึกษาของเด็กบุรีรัมย์ มีชื่อสอดคล้องกับโรงเรียนที่มีการพัฒนาการศึกษาในระดับชาติ และส่วนกลาง ทัดเทียมโรงเรียนในส่วนกลาง อีกทั้งหลายจังหวัดมีชื่อเป็นสาขา 1 สาขา 2 เพื่อให้สิ่งดีๆ แก่ลูกหลานชาวบุรีรัมย์ แต่หากมีหลายกลุ่มไม่เห็นด้วยก็ต้องมีกระบวนการต้องฟังเสียง สอบถามความคิดเห็นจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน จึงหาข้อยุติร่วมกันได้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ทางโรงเรียนภัทรบพิตร โดย นายสมศักดิ์ แต้มโคกสุง ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้มีหนังสือไปถึงผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่ บ้าน ในเขต ต.เสม็ด ต.สะแกซำ, นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสม็ด นายกอบต.สะแกซำ และคณะศิษย์เก่าโรงเรียนภัทรบพิตรทุกรุ่น เพื่อเข้าร่วมประชุมพิจารณาหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อโรงเรียนภัทรบพิตร เป็นโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย บุรีรัมย์ ในวันที่ 28 มกราคม 2554 เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ณ หอประชุมโรงเรียนภัทรบพิตร ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์