xs
xsm
sm
md
lg

ประมงแปดริ้วลุยรื้อโพรงพรางขวางลำบางปะกง ขณะชาวบ้านโอดไร้อาชีพทำกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ประมงแปดริ้วลุยรื้อถอนโพรงพรางขวางกลางลำน้ำบางปะกง ขณะชาวบ้านฮือล้อม โอดไร้อาชีพทำกินรองรับ ระบุเป็นอาชีพจากภูมิปัญญาสืบทอดกันมานับร้อยปี

วันนี้ (20 ม.ค.) นางพจนีย์ รักกล่น หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการด้านประมง สำนักงานประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จากประมงจังหวัด และประมงอำเภอบางปะกง ทำการไล่รื้อถอนโพรงพราง ที่ปักยึดเสาขวางกั้นกลางลำน้ำบางปะกง เพื่อเปิดเส้นทางการสัญจรทางน้ำในลำน้ำบางปะกงให้สะดวก และเป็นการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำภายในลำน้ำ

เนื่องจากเครื่องมือประมงประเภทโพรงพรางนั้น เป็นเครื่องมือที่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำ กีดขวางทางเดินของกุ้งปลาที่จะขึ้นลงไปวางไข่ สัตว์น้ำเดินทางไม่สะดวกเพราะถูกดักจับติดอยู่ภายในโพรงพรางที่ปิดขวางกั้นลำน้ำจนหมด ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้สัตว์น้ำนั้นมีโอกาสสูญพันธุ์ได้

และเป็นการปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ตามที่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดจริงจังจากกรมประมง เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวนี้ได้ถูกออกมาบังคับใช้มานานแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2490 และได้มีการแก้ไขกฎกระทรวงมากว่า 30 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมา ได้เคยมีการผ่อนผันมาโดยตลอด ซึ่งในครั้งนี้ได้เคยแจ้งเตือนก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา 90 วัน ให้แก่ชาวประมงทราบไปก่อนหน้าแล้ว ว่า ให้ผู้ประกอบอาชีพดังกล่าว รื้อถอนโพรงพรางออกจากลำน้ำด้วยตนเอง ซึ่งได้ครบกำหนดไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.53 ที่ผ่านมา แต่ชาวบ้านก็ยังดื้อดึงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

ล่าสุด วันนี้จึงได้เข้าทำการรื้อถอนโพรงบางออกเพียงบางส่วนก่อน จากนั้นก็จะบังคับใช้กฎหมายให้ชาวบ้านทำการรื้อถอนโพรงพรางออกจนหมดอีกครั้ง เนื่องจากในครั้งนี้ชาวบ้านได้พยายามรวมกลุ่มกันจะเข้ามาปิดล้อมเจ้าหน้าที่ จึงได้มีการเจรจาตกลงกันที่จะรื้อถอนออกไป เพียงแถวละ 7 ช่อง เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน นางพจนีย์ กล่าว

ขณะที่ นายสมทพ กาญจนสาย กล่าวว่า ได้ประกอบอาชีพปักกางโพรงพรางมานานแล้ว สืบทอดกันมานับแต่บรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคน ซึ่งตนถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว จึงไม่มีอาชีพอื่นทำกิน หากจะให้เลิกทำการประมงอาชีพนี้ แล้วจะให้ชาวบ้านไปประกอบอาชีพอะไร โดยที่ทางประมงไม่ได้เตรียมหาอาชีพมารองรับไว้ให้จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมต่อความเดือดร้อนในครั้งนี้บ้าง

ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่เข้ามาบังคับให้ชาวบ้านรื้อถอนโพรงพรางออกจากลำน้ำแต่ชาวบ้านยังไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการข่มขู่ว่า หากชาวบ้านยังไม่ทำการรื้อถอนออกเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการรื้อถอนโพรงพรางออกเองพร้อมจะทำการยึดนำเอาเสาโพรงพรางกลับไปเป็นของกลางพร้อมที่จะทำลายทิ้งด้วย ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันโดยได้ขอให้นักการเมืองท้องถิ่นมาช่วยในการเจรจาต่อรอง โดยจะขอปักทำกินในบางส่วนต่อไปอีกก่อนเนื่องจากชาวบ้านยังไม่มีอาชีพอะไรมารองรับ และจะยินยอมรื้อถอนออกให้จำนวน 6 ช่องต่อแถวเท่านั้น จากทั้งหมด 41 ช่อง ซึ่งหากทางประมงต้องการที่จะเข้ามาทำการรื้อถอนออกไปทั้งหมดอีก ชาวประมงจะรวมตัวกัน และขอต่อสู้จนถึงที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น