ฉะเชิงเทรา -ชาวแปดริ้วสวดเดือดนักการเมือง ร้องขอให้หยุดทำเพื่อตัวเอง หลังยังถกสูตรในเรื่องสัดส่วนจำนวน ส.ส.ไม่จบ วอนให้หันมาสนใจทำหน้าที่แก้ไขปัญหาปากท้องให้แก่ชาวบ้านบ้าง หลังถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้มงวดบังคับใช้กฎหมาย บีบตัดช่องทางทำกิน
วันนี้ (21 ม.ค.) นายเริงศักดิ์ ทองเขียว อายุ 60 ปี ชาว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อน และหมดสิ้นหนทางในการทำกิน หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา ไล่รื้อถอนโพงพางที่เคยใช้วางดักจับสัตว์น้ำภายในลำน้ำบางปะกง จนไม่มีอาชีพในการหาเลี้ยงครอบครัว หลังจากได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้ง นายอำเภอ นักการเมือง และ ส.ส.ในพื้นที่ ให้เข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่กลับได้รับการปฏิเสธจากทุกหน่วยงาน
นายเริงศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้จึงอยากวิงวอนร้องขอให้นักการเมืองได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องให้แก่ชาวบ้านบ้าง ด้วยการทำหน้าที่ ส.ส.ในการแก้ไขข้อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมในสภาให้แก่ประชาชนได้ทำมาหากินกันได้บ้าง เนื่องจากการออกกฎหมายบางข้อบางอย่างที่ถูกออกมาบังคับใช้นั้น ไม่เคยมีใครมาสอบถามความเห็นจากภาคประชาชนเลยว่าเห็นด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ กฎหมายบางฉบับได้ออกมาใช้นานแล้วจนล้าสมัย จึงควรมีการแก้ไขปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้นักการเมืองทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อปากท้องของชาวบ้าน และยังไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชน เพราะมัวแต่มาถกเถียงกันในเรื่องสัดส่วนสูตรของ ส.ส.โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์อะไร ซึ่งมองว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวของพวกเขาเอง จึงอยากฝากไปถามถึงนักการเมืองระดับแกนนำหัวหน้าพรรคทุกๆ คนว่ากำลังทำเพื่อใคร ชาวบ้านได้ประโยชน์อะไร
“เมื่อตอนก่อนเลือกตั้ง นักการเมืองก็พากันเข้ามายกมือไหว้ชาวบ้าน แต่พอได้เป็น ส.ส.แล้ว ก็ไม่หันมามองหรือเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านบ้างเลย จนหลายคนต้องประสบปัญหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง การทำประมงโพงพางนั้น ไม่ได้ทำกันทั้งวันจะทำแค่เฉพาะเวลาน้ำลง เพียงวันละ 4 ชม.เท่านั้น หากสัตว์น้ำจะสูญพันธุ์ก็คงจะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว” นายเริงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
วันนี้ (21 ม.ค.) นายเริงศักดิ์ ทองเขียว อายุ 60 ปี ชาว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านผู้ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อน และหมดสิ้นหนทางในการทำกิน หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดฉะเชิงเทรา ไล่รื้อถอนโพงพางที่เคยใช้วางดักจับสัตว์น้ำภายในลำน้ำบางปะกง จนไม่มีอาชีพในการหาเลี้ยงครอบครัว หลังจากได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรม และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้ง นายอำเภอ นักการเมือง และ ส.ส.ในพื้นที่ ให้เข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่กลับได้รับการปฏิเสธจากทุกหน่วยงาน
นายเริงศักดิ์ กล่าวว่า ในวันนี้จึงอยากวิงวอนร้องขอให้นักการเมืองได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องให้แก่ชาวบ้านบ้าง ด้วยการทำหน้าที่ ส.ส.ในการแก้ไขข้อกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมในสภาให้แก่ประชาชนได้ทำมาหากินกันได้บ้าง เนื่องจากการออกกฎหมายบางข้อบางอย่างที่ถูกออกมาบังคับใช้นั้น ไม่เคยมีใครมาสอบถามความเห็นจากภาคประชาชนเลยว่าเห็นด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ กฎหมายบางฉบับได้ออกมาใช้นานแล้วจนล้าสมัย จึงควรมีการแก้ไขปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้นักการเมืองทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อปากท้องของชาวบ้าน และยังไม่ได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชน เพราะมัวแต่มาถกเถียงกันในเรื่องสัดส่วนสูตรของ ส.ส.โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์อะไร ซึ่งมองว่าจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวของพวกเขาเอง จึงอยากฝากไปถามถึงนักการเมืองระดับแกนนำหัวหน้าพรรคทุกๆ คนว่ากำลังทำเพื่อใคร ชาวบ้านได้ประโยชน์อะไร
“เมื่อตอนก่อนเลือกตั้ง นักการเมืองก็พากันเข้ามายกมือไหว้ชาวบ้าน แต่พอได้เป็น ส.ส.แล้ว ก็ไม่หันมามองหรือเข้ามาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านบ้างเลย จนหลายคนต้องประสบปัญหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง การทำประมงโพงพางนั้น ไม่ได้ทำกันทั้งวันจะทำแค่เฉพาะเวลาน้ำลง เพียงวันละ 4 ชม.เท่านั้น หากสัตว์น้ำจะสูญพันธุ์ก็คงจะสูญพันธุ์ไปนานแล้ว” นายเริงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย