ตร.เชียงใหม่จับหัวโจกแก๊งลักรถ จยย.สุดแสบทำเป็นทีมขโมยร่วมร้อยคันต่อเดือน

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ตำรวจเชียงใหม่จับหัวโจกแก๊งลักรถมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ เผย ทำงานเป็นทีมเดินสายขโมยรถก่อนส่งหัวโจกขายต่อนายทุน-ส่งประเทศเพื่อนบ้าน ตะลึงลักรถเดือนละร่วมร้อย แถมหัวใสปลอมทะเบียน-เอกสารตบตาตำรวจซ้ำ

วันนี้ (20 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 นำโดย พ.ต.อ.กริช กิติลือ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมแก๊งลักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์สืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่

ในการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นางศรีพรรณ หรือ แหม่ม มาจันทร์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 2 ต.ทาปลาดุก อ.แม่ทา จ.ลำพูน ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ซึ่งถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา มาร่วมในการแถลงข่าวด้วย

การจับกุมแก๊งลักรถในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นางศรีพรรณ และนายยอดชาย หรือ แจ็ค ปวงคำ สามีของ นางสาวศรีพรรณ มีพฤติการณ์เป็นนายทุนรับซื้อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 โดยจะมีลูกน้องประมาณ 4-5 กลุ่ม ทำหน้าที่ออกไปลักรถจักรยายนต์ตามสถานที่ต่างๆ แล้วนำมาขายให้กับ นายยอดชาย และ นางสาวศรีพรรณ ในราคาคันละ 6,000-8.000 บาท

ต่อจากนั้น ทั้งสองจะนำรถไปขายต่อให้กับกลุ่มนายทุน และบางส่วนส่งออกไปขายในประเทศพม่าผ่านแนวชายแดนจังหวัดเชียงราย ในราคาคันละ 10,000-15,000 บาท โดยจะทำการปลอมแปลงแผ่นป้ายทะเบียน แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี และสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจของตำรวจ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 147 ม.4 ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ และ นางศรีพรรณ เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2553 ที่ผ่านมา จากการตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาจำนวน 4 คัน และแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีรถจักรยานยนต์จำนวน 48 แผ่น และชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์อีกเป็นจำนวนมาก จึงขยายผลจนสามารถจับกุมนางสาวศรีพรรณ ได้ในที่สุด

พ.ต.อ.กริช กิติลือ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า แก๊งดังกล่าวทำงานกันเป็นขบวนการ โดยจะตระเวนออกโจรกรรมรถในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เดือนละประมาณ 80-100 คัน สูงสุดวันละ 5 คัน โดยรถที่คนร้ายต้องการมากที่สุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม 125 ซีซี

ทั้งนี้ รถที่ถูกโจรกรรมจะมีการสลับสับเปลี่ยนชิ้นส่วน ทำการตัดแผ่นป้ายทะเบียนออกเป็นสามส่วนก่อนนำมาผสมเป็นป้ายทะเบียนใหม่ และทำการปลอมแปลงเอกสารอย่างแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี แผ่นป้ายทะเบียนรถ โดยอาศัยการถ่ายเอกสารสี และการติดเครื่องหมายปลอมเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่ นางสาวศรีพรรณ จะเป็นผู้จัดการเรื่องการขายรถต่อให้กับกลุ่มนายทุน ขณะที่รถอีกส่วนหนึ่งจะถูกนำส่งออกนอกประเทศผ่านทาง อ.เชียงของ จ.เชียงราย

นอกจากนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า นายยอดชาย มีประวัติด้านการโจรกรรมรถอย่างโชกโชน โดยมีหมายจับในพื้นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ 2 หมายจับ และที่ สภ.แม่ปิง 2 หมายจับ ในความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์หรือรับของโจร และยังมีคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าพนักงานสอบสวนในท้องที่ สภ.ต่างๆ ในความผิดฐานเดียวกันที่รอการออกหมายจับอีกกว่า 40 คดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งติดตามตัวนายยอดชาย และพวกมาดำเนินคดีต่อไป