ศูนย์ข่าวขอนแก่น-ปิดแล้วศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 7 วันอันตราย สรุปตัวเลขจังหวัดขอนแก่นตายเซ่นรับปีกระต่าย 5 ราย บาดเจ็บอีก 68 คน ทั้งนี้ผู้ประสบอุบัติเหตุมีอายุ15-19 ปีมากที่สุด เมาแล้วขับยังมาอันดับหนึ่ง
วันนี้(5 ม.ค.)นายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานปิดศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งขอนแก่นดำเนินงานจัดตั้งศูนย์มาตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา
นายอนุกุล ตังคณานุกุลชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวถึงผลสรุปในช่วง7 วันอันตรายว่า จังหวัดขอนแก่นมีอุบัติเหตุ เกิดขึ้นทั้งหมด 58 ครั้งมีผู้บาดเจ็บบาดเจ็บ 68 คน มีผู้เสียชีวิต 5 คน ก็ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ด้วยอุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นปีนี้เป็นถนนสายหลักจำนวน 38 ครั้ง สายรองเกิดอุบัติเหตุ24 ครั้ง ผู้ประสบอุบัติเหตุอายุ 15-19 ปี มากที่สุด รถมอเตอร์ไซค์เกิดอุบัติเหตุ 47 ครั้ง เวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากคือช่วง 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม
สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ ขับรถเร็ว ตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถย้อนศร มีการเรียกตรวจรถตามมาตรการ 3 ม. 2ข. 1 ร.และ 4 ห้าม จำนวน 1,418124 คัน กระทำความผิด 92,548 คัน มีการดำเนินคดี กว่า 65,815 คน
คดีที่พบการกระทำผิดมากสุดคือ การขับรถย้อนศร สำหรับคดีเมาไม่ขับ มีการดำเนินคดี 795 คน มีการดำเนินคดีกับผู้โทรศัพท์ขณะขับรถ จำนวน 2,219 คน ซึ่งนับว่าคดีที่กล่าวมามีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมากและก็มีการจับกุมสูงเหมือนกัน อำเภอที่มีอุบัติเหตุสูงคืออำเภอหนองเรือ 12 ครั้งรองลงมาคืออำเภอพล 11 ครั้ง อำเภอชุมแพ 6 ครั้ง อำเภอสีชมพูและน้ำพองอำเภอละ 5 ครั้ง อำเภอที่ไม่มีอุบัติเหตุ ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตมี 13 อำเภอ
ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตอยู่ในอำเภอเมือง 2 คน อำเภอหนองเรือ 3 คน โดยรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังเป็นรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดเหมือนเดิม ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงานทุกด่านตรวจให้ตรวจเข้มกวดขันวินัยจราจรกับผู้ขับขี่ โดยเฉพาะเมาไม่ขับ การใช้ความเร็วเกินกำหนด การไม่สวมหมวกกันน็อก และการขับรถย้อนศร เพราะเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูง
พร้อมทั้งให้เข้มงวดกับการจำหน่ายสุราของมึนเมาให้ตามเวลากฎหมายกำหนดและห้ามขายให้เด็ก และให้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆให้ผู้ขับรถเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
